สมาคมคลองไทยฯ บุกสภา พบ 'ครูมานิตย์' จี้!! ผลักดันโครงการ 'คลองไทย' เจ้าตัวลั่น!! ไม่ทิ้ง แต่ต้องรอจังหวะเหมาะสม เวลานี้ 'แลนด์บริดจ์' สำคัญ

เมื่อวานนี้ (3 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา สมาชิกสมาคมคลองไทยภาคประชาชน นำโดย น.ส.เสาวณี ทองทรัพย์ นายกสมาคม ดร.สุเมต สุวรรณพรหม กรรมการสมาคม และสมาชิกระดับนำอีกหลายคน เดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือถึง 'ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม' สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการคมนาคม เพื่อขอให้ดำเนินการสานต่อนำโครงการคลองไทยมาศึกษาในเชิงลึก เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน โดยครูมานิตย์ได้ลงมารับหนังสือในระหว่างการประชุมสภาพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐสภา ตามมาตรา 152 (ไม่มีการลงมติ)

ครูมานิตย์ กล่าวว่า "ยินดีรับหนังสือไว้พิจารณา และนำเสนอต่อไป แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าเวลานี้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี กำลังผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร อยู่ การที่ผมในฐานะ สส.พรรครัฐบาล ก็ต้องให้การสนับสนุนรัฐบาล แต่โครงการคลองไทย ก็ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม แล้วผมจะช่วยผลักดันแน่นอน"

ทั้งนี้ ในสภาชุดที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาศึกษาแล้ว แต่ด้วยกลเกมทางการเมือง ทำให้รายงานผลการศึกษาตกไปอย่างน่าเสียดาย แต่สมาคมคลองไทยภาคประชาชนก็ไม่ลดละ ไม่ย่อท้อ ยังเดินหน้าผลักดันโครงการคลองไทยต่อไป ทั้งถวายกฎีา และส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อนำเสนอร่างพระราชบัญญัติบริหารกิจการคลองไทยเข้าสู่การพิจารณาของสภา

ขณะที่ สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เคยมีหนังสือตอบกลับมายังสมาคมคลองไทยภาคประชาชน ความตอนหนึ่งว่า...สภาพัฒน์ฯ เคยร่วมกับศูนย์บริการวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามันของไทยพบว่า การเชื่อมโยงการขนส่งสองฝั่งทะเล ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงมาก มีผลกระทบทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้การประเมินความเหมาะสมทางด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ ไม่คุ้มค่าการลงทุน ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งจะได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับคืนมาได้ไม่ว่าด้วยเทคโนโลยีใด ๆ ทั้งยังกระทบต่อความเป็นอยู่ การเปลี่ยนแปลงโยกย้ายถิ่นฐาน

ดังนั้น สภาพัฒน์ จึงเสนอให้รัฐบาลทบทวนและต่อยอดแผนปฏิบัติการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (SEC) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เป็นศูนย์กระจายสินค้าของภูมิภาค เป็นต้น