‘จตุพร’ เชื่อ!! หากก้าวไกลถูกยุบ ปชช. ‘เฉยชา-ไม่ปกป้อง’ ชี้!! ไม่แตกต่างจากการยุบพรรคการเมืองที่ผ่านมาในอดีต

(13 มี.ค. 67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ โดยเชื่อว่า หากการยุบพรรคก้าวไกลเกิดขึ้นจริงแล้ว ความตื่นตัวของประชาชนคงยังนิ่งเงียบ เฉยชาทางการเมืองไม่แตกต่างการยุบพรรคการเมืองที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งไม่มีประชาชนจำนวนมากออกมาพิทักษ์สิทธิเพื่อปกป้องพรรคที่ลงคะแนนเสียงให้ด้วยความศรัทธาเลย 

นายจตุพร กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นยุบพรรคก้าวไกลนั้น แนวโน้มศาล รธน.จะรับพิจารณาถึง 99 % แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ การดีลกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ไปฮ่องกงพบทักษิณ ชินวัตร เพราะคนเชื่อถึงการจับมือกันในการร่วมรัฐบาล ดังนั้น การยุบพรรคแสดงถึงการดีลเป็นรัฐบาลจะพังย่อยยับไปทันที

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าการยุบพรรคก้าวไกลจะไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะการยุบพรรคการเมืองผ่านมา ทั้งยุบไทยรักไทย, พลังประชาชน และอนาคตใหม่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นการยุบพรรคก้าวไกลคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเช่นกัน เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองกับประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งขาดจิตวิญญาณสัมพันธ์ผูกพันต่อกัน จึงไม่เกิดแรงเหวี่ยงทางการเมือง แต่มีความระส่ำระสายของสมาชิกพรรคจะตามมาเท่านั้น

อีกอย่าง การยุบพรรคการเมืองไม่ได้ทำให้สภาพนักการเมืองหมดไป เพราะได้เตรียมชุดหนึ่ง-สอง-สาม ไว้ทำงานรับผิดชอบนำพาพรรคกันใหม่อยู่แล้ว รวมทั้งกล่าวว่า การเมืองรอบนี้หาสาระไม่ได้ และไม่มีหลักการจับยึดมาพูดวิเคราะห์กันเลย จึงได้แต่ติดตามอย่างใกล้ชิด ยิ่งยุบพรรคก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับประชาชนเช่นกัน

ที่สำคัญหลักคิดความแตกต่างทางความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยม เสรีนิยม ประชาธิปไตย อำนาจนิยม และฝ่ายก้าวหน้า ยังสงบนิ่งเหมือนเดิม ไม่มีประชาชนตื่นตัวออกมาเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น อดีตบอกไว้อย่างนั้น โดยเล่าถึงความเชื่อศรัทธาของประชาชนทางการเมืองที่หยุดนิ่งเฉยเงียบ อนาคตของประเทศจึงเป็นเช่นนี้ ดังนั้น การยุบพรรคก้าวไกลหนนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง ย่อมไม่แตกต่างการยุบพรรคที่ผ่านมาเช่นกัน คือ ประชาชนนิ่งเฉย ไร้การตื่นตัวเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ของตัวเอง

“อย่าหวังว่าการยุบพรรคจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือกับสถานการณ์คนไทยเป็นอยู่เหมือนเดิมแบบนี้ จึงยากสุดที่จะเกิดการตื่นตัว และไม่ได้มีหลักยึดมั่นทางการเมืองกับพรรคใดอย่างมั่นคง โดยพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ในการตั้งรัฐบาลเป็นสิ่งสะท้อนอารมณ์ทางการเมืองและความเชื่อในพรรคการเมืองเป็นอย่างไรได้ดีที่สุด คือ เงียบและไม่เกิดอะไรขึ้นเลย แล้วทุกฝ่ายทั้งอนุรักษ์นิยม ประชาธิปไตยและฝ่ายก้าวหน้ายอมให้เกิดขึ้น และยังไม่ได้ประโยชน์อะไรสักอย่างเลย”

ประเทศไทยต้องมาก่อน