‘จิรายุ’ เคลียร์ปม ‘หนองวัวซอ’ อุดแรงปั่น ‘แด๊ดดี้’ ชี้!! ที่ดินราชพัสดุไม่ใช่ ‘กรรมสิทธิ’ แต่ต่อสิทธิได้

จากรายการ ‘คุยจบครบกระแส’ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 ดำเนินรายการโดย ‘นายหัวไทร’ เฉลียว คงตุก / จาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ ‘นายจิรายุ ห่วงทรัพย์’ โฆษกกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยเรื่อง การนำที่ดินทหารมาให้ชาวบ้านที่บุกรุกเช่าในอัตราราคาถูก แต่กลับถูก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ติงว่าการให้เช่า 3 ปี เป็นระยะเวลาที่สั้นไป ไม่มั่นคง ทาสีไม่ทันแห้งก็ถูกเอาคืน ซึ่งเรื่องนี้ นายจิรายุ ได้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ไว้อย่างชัดเจน ว่า...

“เรื่องของการเช่าที่ดินทหารไม่น่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ก็กลับมาเป็นประเด็นจนได้ เมื่อคุณพิธา ไปย้อนรอยรัฐบาลถึงโครงการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ‘หนองวัวซอโมเดล’ ให้ผู้เช่าชาวจังหวัดอุดรธานี ว่า เป็นการออกเอกสารให้ชาวบ้านเช่าแค่ระยะสั้นๆ แค่ 3ปีคนที่จะลงทุนจะไปทำอะไร โดยเปรียบเปรยว่า 3 ปี วางแผนเพาะปลูกอะไรก็ไม่ได้เลย เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวยังหม้อยังไม่ทันได้ดำ เปิดร้านทาสีก็ยังไม่แห้ง ผลผลิตยังไม่ออกผล สัญญาก็จะหมดแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหากคนที่ไม่เข้าใจ พอได้ฟังเช่นนี้ ก็อาจจะเข้าใจผิดได้...

“ทั้งนี้ หากย้อนความกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัย คสช. ยึดอำนาจ ที่ดินของทหารซึ่งมีจำนวนมาก มิได้มีเส้นแบ่งเขตชัดเจน แล้วก็ทำให้เกิดการบุกรุกของประชาชน แล้วพอมีผู้บุกรุกแล้วเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบ ก็สามารถไล่ออกได้ทุกเวลา แต่เนื่องจากรัฐบาลต้องการทำให้พื้นที่ซึ่งมีโอกาสต่อประโยชน์ในการทำมาหากินอยู่ในระบบที่ถูกต้อง ทางกรมธนารักษ์ จึงได้ให้สิทธิ์กลับไปยังส่วนราชการในทุกกระทรวง-ทบวง-กรม ได้นำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะเป็นการนำพื้นที่ไปสร้างประโยชน์แก่ประชาชน...

“อย่างไรก็ตาม ที่ดินเหล่านี้ ซึ่งคุณพิธาอาจจะไม่ทราบ คือ มีการต่อสัญญาเมื่อหมดสัญญาทั้งสิ้น โดยท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ท่านก็เคยได้ออกชี้แจงข้อเท็จจริงมาแล้วว่า หลังจาก 3 ปีก็มีการต่อสัญญาให้ทุกปี หรือทุกครั้งที่หมดสัญญา...

“ฉะนั้น ประเด็นที่คุณพิธา พูดถึงกรรมสิทธิผิดความหมาย และการให้สิทธิประชาชนเช่าที่ราชพัสดุ 3 ปีแล้วมีการเรียกคืนนั้น ก็เหมือนกับการเล่นการเมืองที่ภายใต้การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน จนอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชนได้ เพราะที่ผ่านมา การจัดสรรที่ดินทำกิน ในกลุ่มพื้นที่ราชพัสดุ เช่น หนองวัวซอโมเดล เป็นการ ‘มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ’ ไม่ใช่ ‘กรรมสิทธิ์’ ตามที่นายพิธากล่าวอ้างอยู่แล้ว” (พิธาพลิกลิ้น ไม่ได้บอกว่าให้ประชาชนเป็นที่อยู่อาศัย คอยจ่ายค่าเช่าให้กับรัฐบาล ไม่ใช่แบบนั้น แต่ต้องเป็นสิทธิในการบริหารอนาคตของตัวเอง สิทธิในการมอบที่ดินให้กับลูกหลาน การมีกรรมสิทธิ์ในการจะเอาที่ดินเข้าธนาคาร นำเงินออกมาแก้ปัญหา ช่วยทำให้ จ.อุดรธานี น่าอยู่)

สำหรับกรณีที่ราชพัสดุ ‘หนองวัวซอโมเดล’ นายจิรายุ กล่าวว่า เป็นระบบสิทธิการเช่า 3 ปี ประชาชนที่เช่าอยู่เดิม ต่อสัญญาได้ตลอดและต่อเนื่อง หากจะเช่าเกิน 3 ปีก็ทำได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิการเช่าจำนวนมาก การต่อสัญญา 3 ปีครั้งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับประชาชน

“รัฐบาลนายเศรษฐา เพิ่งลงพื้นที่มอบสัญญาเช่าที่ดินในโครงการหนองวัวซอโมเดลไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา และรัฐบาลจะเดินหน้าเพิ่มที่ดินทำกินให้ประชาชนต่อเนื่อง ในหลายวิธีการ ซึ่งหนองวัวซอโมเดล รัฐบาลทำมาระยะหนึ่งแล้ว และนายกฯ ก็มีความตั้งใจในเรื่องนี้มาก” นายจิรายุ ย้ำชัด

เมื่อถามว่า แล้วถ้าจะต่อสัญญาแบบระยะยาวให้แก่ผู้เช่าได้หรือไม่ นายจิรายุ เผยว่า โดยส่วนใหญ่ระเบียบการให้เช่าที่ของกรมธนารักษ์ มักจะยืนพื้นการให้เช่าไว้ที่ 3 ปี แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นมาตรฐานแบบเหมารวม เนื่องจากบางพื้นที่และบางกิจกรรมที่แตกต่าง ก็ทำให้ไม่สามารถกำหนด เป็น 3 ปี 5 ปี หรือกี่ปีแบบเดียวกันได้ เช่น บางพื้นที่ใช้ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ การให้สัญญาเช่า 3ปีก็เยอะไปสำหรับบางผู้เช่า หรือบางกรณีมีที่ให้เช่าแถวสถานีขนส่ง บางคนก็อยากประกอบกิจการอื่นๆ โดยมองว่าควรได้ทำระยะยาว ซึ่งตรงนี้มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมในพื้นที่ 

แต่โดยสรุปแล้ว นี่ถือว่าเป็นเจตนาที่ดี ที่ทางรัฐบาลต้องการมอบโอกาสในการทำมาหากินผ่านที่ดินทำกินให้กับประชาชนนั่นเอง