'ชาวเน็ต' โดดป้อง 'พี่จอง-คัลแลน' หลังโดนเปิดเผยค่าตัว เชื่อ!! ตั้งสูงเพราะไม่อยากรับ แต่ถ้าพอใจอาจทำให้ฟรี

เมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 67) ช่องยูทูบ ‘LuckFast’ ได้ออกมาพูดถึงกระแสดรามาเรื่องค่าตัว 2 ยูทูบเบอร์ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้อย่าง ‘คัลแลน-พี่จอง’ ยูทูบเบอร์ชาวเกาหลีใต้ที่ใช้ชีวิตในประเทศไทย เรียนภาษาไทย กินอาหารไทย แถมยังออกเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทยและทำกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย โดยระบุว่า…

“ตอนนี้ยูทูบเบอร์ที่มาแรงที่สุดในประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นคัลแลนกับพี่จอง ซึ่งล่าสุดก็มีประเด็นเกิดขึ้นกับทั้งคู่ เมื่ออยู่ๆ ก็โดนเอาเรทราคารับงานมาเปิดเผยว่าสูงถึง ‘หนึ่งล้านบาท’ สำหรับคัลแลนกับพี่จอง เป็นชาวเกาหลีที่มาทํางานในเมืองไทย โดยคัลแลนเป็นโปรดิวเซอร์เพลง EDM และเปิดช่อง Youtube ของตัวเองชื่อว่า Cullen Hateberry ซึ่งก็เป็นช่องแนวไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตกินเที่ยว

ซึ่งตอนแรกก็จะมีแค่คัลแลนคนเดียว แต่ว่าหลังจากทําไปสักพักนึงเนี่ยก็มีพี่จองมาร่วมด้วย โดยพี่จองเป็นนักธุรกิจ จะมาเป็นบางคลิป แต่ว่าช่วงหลัง ๆ มาบ่อยขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกคนคือน้องแดนที่เป็นนักศึกษา

ซึ่งช่อง Cullen Hateberry โตไวมาก จากเมื่อ 4 เดือนก่อน มียอดซับฯ 100,000 กว่าซับ แต่ว่าวันนี้มียอดซับฯ เกือบ 1,600,000 ซับฯ และยอดวิววิดีโอก็ขึ้นหลักล้านทุกคลิป 

ซึ่งเหตุผลที่หลาย ๆ คนอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมช่อง Cullen Hateberry ถึงได้รับความนิยม ก็เป็นเสียงเดียวกัน คือ เขาไม่พูดคําหยาบ ทําให้ดูได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนคนสูงอายุ นอกจากนี้ เป็นเรื่องภาษาที่ใช้ คัลแลน พี่จอง หรือน้องแดนพยายามพูดภาษาไทย ก็เลยทําให้เกิดความเอ็นดู แถมทัศนคติของทั้ง 3 ก็ดีมากด้วย พฤติกรรมอ่อนน้อมถ่อมตน มองโลกในแง่ดี คิดบวก ไม่หงุดหงิด ไม่โวยวาย รักสัตว์ ด้วยเหตุผลพวกนี้จึงทําให้คนดูใจฟูตามไปด้วย

นอกจากนี้ ยังนําเสนอการท่องเที่ยวในไทยได้อย่างน่าสนใจ จะเห็นว่าในบางคลิปก็จะไปแบบเรียล ๆ ไม่ต้องวางแผงเยอะ ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น ทําให้หลายคนอยากจะไปเที่ยวปล่อยใจแบบพวกเขากันบ้าง และหลาย ๆ ที่ที่พวกเขาไป ก็ต้องบอกว่า แม้แต่คนไทยก็ยังไม่เคยไป แถมคนดูยังจะได้เห็นมุมน่ารัก ๆ ของคนไทย เช่น ความมีน้ำใจคอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วย 

ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ส่งผลให้ช่อง Cullen Hateberry เติบโตและโด่งดังมาก โดยเฉพาะคัลแลนกับพี่จอง พอเขาดังก็มีคนอยากจะติดต่อจ้างงาน มีสปอนเซอร์ อยากจะให้ไปออกรายการ”

ช่องยูทูบรายนี้ยังได้ยกกรณีตัวอย่างจากรายการทอล์คกิ้งไทยแลนด์ ช่องวอยซ์ทีวี ที่ได้พูดถึงเรื่อง ‘ค่าตัว’ ของทั้งคู่ โดยเริ่มแรกก็คุยกันเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ โดยบอกว่าซอฟต์พาวเวอร์ที่น่าจะผลักดันก็คือต้องขอบคุณคัลแลนกับพี่จอง

ด้านอั๋น ภูวนาท พิธีกรรายการ “ระบุว่าไม่เคยดูแต่ว่ามีคนเล่าให้ฟังทุกวัน” จากนั้นก็บอกอีกว่า “ค่าตัวสองคนนี้หนึ่งล้านบาท ไม่ใช่จ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์นะ แค่ค่ามาออกรายการ แปลว่านี่คืออินฟลูเอนเซอร์จริง ๆ ในตอนนี้”

ทางด้านแขก คำผกา ระบุว่า “ได้ดูบางตอน และเข้าใจได้อย่างหนึ่งและเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ก็คือเขาเป็นคนต่างชาติ เป็นคนเกาหลี เข้าใจว่าเขาเรียนภาษาไทยจากผู้หญิง เลยออกมาในลักษณะที่เขาเป็นชายแท้ที่พูดภาษาไทย ด้วยภาษาไทยแบบผู้หญิง ก็เลยน่ารัก”

ทาง อั๋น ภูวนาท เสริมว่า “น้องที่รู้จักกันบอกว่าเป็นภาษากะเทย” 

ฟาก แขก คำผกา กล่าวต่อว่า “เป็นภาษากะเทยบวกภาษาผู้หญิง แต่เขาไม่รู้ ก็เลยน่ารัก ลองนึกภาพว่าเป็นแมน ๆ แล้วพูดพี่อย่างนั้นน้องอย่างนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราจะได้ยินภาษาแบบนี้จากเด็กหรือผู้หญิง ทําให้เกิดความน่ารัก (Cute) ไม่อาจต้านทานได้”

ช่องยูทูบรายนี้ได้กล่าวต่อว่า “หลังจากนั้นก็เล่าข่าวอื่น ๆ เกี่ยวกับคัลแลนและพี่จองกันต่อ เช่น ทําให้คนไทยหันไปแห่ซื้อพาสปอร์ตอุทยานฯ กันจนแบบมันหมดเกลี้ยง”

หลังจากนั้นก็ได้พูดถึงประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ ที่มีคนตัดเอาบางส่วนจากรายการทอล์คกิ้งไทยแลนด์ไปลงในโซเชียล จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนไม่พอใจที่ข่าวรายการนี้นำเรทค่าตัวมาเปิดเผย และก็มองว่าที่เขาตั้งใจตั้งค่าตัวสูง เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้อยากจะไปออกรายการ ไม่อยากให้ใครมาจ้าง เป็นการปฏิเสธทางอ้อม และการตั้งค่าตัวสูง ๆ ก็เป็นการคัดกรองสปอนเซอร์ไปในตัวด้วย

และอย่างตอนกรมอุทยานฯ ติดต่อไป ทั้งสองก็ยินดีมาทำให้โดยไม่คิดค่าตัว โดยมีเงื่อนไขแค่ว่า อย่าบังคับให้ทำอะไร ขอแค่ได้ทำแบบธรรมชาติปกติก็พอ บางคนได้บอกด้วยว่า อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ปล่อยให้เขาทำคลิปของเขาไปแบบนี้ดีแล้ว และพวกเขาก็อาจจะอยากอยู่แบบสบาย ๆ 

สำหรับประเด็นที่ว่าทั้งพี่จองและคัลแลนเรียนภาษาไทยจากผู้หญิงและเป็นภาษากะเทย หลายคนไม่พอใจที่พิธีกรพูดแบบนี้ เพราะมองว่าการพูดจาสุภาพ น่ารัก ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาของผู้หญิง พี่จองและคัลแลนสมัครเรียนภาษาไทยอย่างจริงจัง ถ้าไม่รู้ก็อย่างพูดมั่ว อีกอย่างในภาษาเกาหลีเขาก็มีการเรียกพี่เรียกน้องกันอยู่แล้วด้วย จึงไม่แปลกหากมาพูดภาษาไทยแล้วจะเรียกพี่เรียกน้องกัน

นอกจากนี้ยังมีอีกมุมหนึ่งของชาวโซเชียลที่มองว่า ก็ไม่เป็นจะต้องดรามาอะไรเลย รายการข่าวก็เพียงแค่นำเสนอข่าวเท่านั้น ไม่ได้พูดต่อว่าอะไรเลย เมื่อฟังวิดีโอเต็ม ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการต่อว่าอะไร แถมพิธีกรยังพูดชมด้วยซ้ำ 


ที่มา: https://youtu.be/Bu7gRZsaKfw