‘นายกฯ’ ลั่น!! 314 เสียง แฮปปี้ดี  พร้อมย้ำ!! ตอนนี้ยังไม่คิดปรับ ครม.

(26 ธ.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาเซลล์แมนสแตนด์ ‘ชิน’ ให้ ว่า ก็เข้าใจในทุกๆ ปีก็มีการตั้งฉายา ซึ่งเป็นเรื่องของสีสัน ฉายาของนายกฯ ที่ตั้งเป็นเซลล์แมนสแตนด์ชิน คำว่า เซลล์แมน ตนก็ทราบอยู่แล้ว เพราะประกาศตัวอยู่แล้ว ส่วนสแตนด์ ‘ชิน’ เป็นคำควบกล้ำระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษหรือเปล่า ซึ่งสื่อต้องอธิบายให้ฟัง ตนจึงจะตอบได้ ตนเองก็เข้าใจหลวมๆ ขอให้ถามได้เลย ไม่เป็นไรจะได้ตอบได้ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำว่าสแตนด์ ‘ชิน’ ในคำบรรยายหมายความว่าอาจจะเป็นเงาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่รอการขึ้นมาเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า “อ๋อ !โอเค”แต่วันนี้ตนก็เป็นนายกฯ อยู่ และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และพยายามตั้งใจเอาให้ครบ 4 ปีให้ได้ แต่สำคัญมากกว่านั้นไม่ใช่อยู่ไปให้ครบ 4 ปีแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนไม่ได้ดีขึ้น ส่วนสแตนด์ ‘ชิน’ คือคอยสำหรับให้ครอบครัวไหนเข้ามา อันนี้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินมากกว่า ตรงนี้ก็ต้องคอยการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็เข้าใจไม่ได้คิดอะไร

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับฉายารัฐบาลแกงส้ม ‘ผลัก’ รวม นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยเข้าใจคำว่าผลักสักเท่าไหร่ แต่หลักแกงส้มเป็นแกงที่มีรสชาติดี และตนก็รู้ว่าเรารวมกันหลายพรรคอยู่แล้ว และรสชาติแกงส้มก็มีทั้งเปรียว หวาน เค็ม เผ็ด ใช่ไหม ตนคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็ครบเครื่องพร้อมที่จะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ตนมองเป็นลักษณะนั้นมากกว่า 

เมื่อถามย้ำว่าคำว่า ‘แกง’ หมายถึงการแกล้ง ที่เป็นการพรรคก้าวไกลในช่วงต้นๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่พรรคเพื่อไทยเราก็โหวตให้ในตอนนั้น แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ และเราก็ไม่สามารถคอยได้ 9-10 เดือนตามที่เขาบอก ก็ต้องทำหน้าที่กันไป ประเทศคอยไม่ได้ ไม่ได้แกล้งแน่นอน และยืนยันตามที่ตนพูดมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งก็บอกอยู่แล้วว่าพร้อมสนับสนุนตรงนั้นหากสามารถทำได้ 

เมื่อถามว่า นายกฯ จะรักษาบรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้อยู่ครบกันไปถึง 4 ปีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่ผลงานของเรามากกว่า และดูที่ความตั้งใจของรัฐมนตรีทุกท่าน ไม่ได้มองแยกว่าเป็นรัฐมนตรีจากพรรคไหนเป็นพรรคไหน เราดูผลงานเป็นหลักของทุกๆ รัฐมนตรี และเอาผลงานเป็นที่ตั้ง เมื่อถามว่า 314 เสียงแปลว่าจะไม่มีการปรับพรรคไหนมาหรือปรับออกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่วันนี้เรามีความสุขอยู่แล้วตรงนี้ และเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านจากทุกพรรคได้ทำงานอย่างเต็มที่ และตนก็ตระหนักดีพี่น้องสื่อมวลชนได้ให้ข้อคิดตลอดเวลา มีปัญหาตรงไหน ต้องแก้ไขตรงไหน และต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคช่วยกันทำงานอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่การจะมีพรรคใหม่เข้ามาเพิ่มร่วมรัฐบาล ก็พร้อมที่จะพิจารณาใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ได้คิด ผมเชื่อว่า ณ วันนี้ 314 เสียงเรายังทำงานกันได้ดีอยู่ มีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเราก็คุยกันอย่างตรงไปตรงมาโดยเอาผลงานเป็นที่ตั้ง วันนี้เราโอเคอยู่แล้วตรงนี้”

เมื่อถามย้ำว่าอนาคตถ้าจะมีเสียงเพิ่มก็ไม่ติดใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า วันนี้แฮปปี้อยู่แล้ว มีความสุขอยู่แล้ว 314 เสียงจาก 500 เสียงเพียงพอต่อการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ก็ต้องปรับกันไป แม้ไม่เห็นด้วยกันหมดแต่ก็มีการพูดคุยกันอย่างผู้ใหญ่ เมื่อถามว่า วัด KPI รัฐมนตรีอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า โอ้โห แต่ละกระทรวงมีเรื่องที่ต้องทำต่างกันไปคงพูดลำบาก เราเน้นเรื่องวัดผลงานเอาระยะเวลามาเป็นตัวจับไม่ใช่พูดลอยๆ 

เมื่อถามว่า ถ้าได้มาเพิ่มอีก 25 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ดีขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ในแง่ของตัวเลขก็อาจจะดีขึ้น แต่ในแง่ของการที่จะมาเกลี่ยมาแบ่งกระทรวงกันใหม่มันก็ลำบากขึ้น มันไม่มีอะไรดีหมดหรอก ขอให้ยึดคำที่ตนพูดไว้ วันนี้ 314 เสียงพอแล้ว และรัฐมนตรีทุกท่านทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ผลงานก็เริ่มทยอยออกมาแล้ว 

เมื่อถามว่า ทำไมถึงยังมีกระแสข่าวการปรับครม.ออกมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้เป็นคนให้ข่าว ตนมีหน้าที่ตอบคำถามอย่างเดียว 

เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ครม.มีการกำชับถึงการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ