‘ออสเตรเลีย’ ประสบปัญหา ‘เนื้อแกะล้นตลาด’ กว่า 78 ล้านตัว เกษตรกรระทม!! ราคาตก จนต้อง ‘แจกฟรี’ เพื่อลดต้นทุน
(23 พ.ย. 66) สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญปัญหาปริมาณเนื้อแกะล้นตลาดและส่งผลให้ราคาทรุดตัวลงอย่างรุนแรง จนทำให้เกษตรกรบางรายต้องหาทางออกด้วยการกำจัดแกะในฟาร์มหรือแจกจ่าย เพื่อเป็นการลดต้นทุนแทนที่จะเลี้ยงฝูงแกะไว้ในฟาร์มต่อไป
ข้อมูลจากสมาคมเนื้อสัตว์และปศุสัตว์แห่งออสเตรเลีย (MLA) ระบุว่า ราคาเนื้อแกะร่วงลงรุนแรงถึง 70% ในปีที่แล้ว สู่ระดับกิโลกรัมละ 1.23 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43.37 บาท)
นายทิม แจ็กสัน นักวิเคราะห์ฝ่ายอุปทานตลาดโลกของ MLA กล่าวว่า ออสเตรเลียมีฤดูกาลที่ดีมากหลายฤดูในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ฝูงแกะมีจำนวนมากถึง 78.75 ล้านตัว ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
ปัจจัยที่ทำให้ฝูงแกะในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจำนวนมากนั้น มาจากการที่หลายภูมิภาคที่เลี้ยงแกะมีฝนตกลงมากกว่าค่าเฉลี่ยเป็นเวลานานถึง 3 ปี ซึ่งรวมถึงรัฐนิวเซาท์เวลส์และวิกตอเรีย โดยฝนที่ตกลงมาจะทำให้ต้นหญ้าเติบโต ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงสัตว์ และทำให้สัตว์ขยายพันธ์ุอย่างรวดเร็ว
“ยิ่งฝนตกลงมามากเท่าไร ปริมาณเนื้อแกะในตลาดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น และเมื่อแกะมีจำนวนมากจนไม่สามารถนำเข้าสู่ตลาดได้อีก ทำให้เกษตรกรต้องตัดสินใจกำจัดแกะเหล่านี้ หรือไม่ก็แจกจ่ายให้ประชาชนฟรี ๆ” นายสตีฟ แมคไกวร์ รองประธาน WAFarmers ซึ่งเป็นกลุ่มส่งเสริมด้านการเกษตรของออสเตรเลีย กล่าว
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตและส่งออกเนื้อแกะรายใหญ่ที่สุดในโลก และภาวะเนื้อแกะล้นตลาดนี้ได้สร้างแรงกดดันขาลงต่อราคาขายส่งทั่วโลก
ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดโดยสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติออสเตรเลียพบว่า กว่า 60% ของเกษตรกรออสเตรเลียที่ตอบแบบสำรวจ ไม่ได้รู้สึกเชิงบวกมากกว่าในปีที่แล้ว ต่ออนาคตของการทำเกษตรในประเทศ