iPhone อาจแพ้ไปยาวๆ ให้ Huawei ในจีน หลังยอดขายร่วงลง 6% แรงหนุนจากคนในชาติ ที่อยาก 'ไล่ล่า-แซงหน้า-หักหน้า' มะกัน

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ iPhone ของ Apple พ่ายแพ้ให้ Huawei ในจีน หลังยอดขาย iPhone ร่วงลง 6% แต่ยอดขาย Huawei เพิ่มขึ้น 2 เท่าในเดือนที่เปิดตัว

แม้จะไม่ใช่ภาพรวมตลาดโลก แต่จีนก็ถือเป็นตลาดใหญ่ของไอโฟน เพราะรายได้ของ Apple ประมาณ 20% มาจากประเทศจีน ซึ่งมากกว่าในสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ

ไม่นานมานี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้เผยถึงหลักฐานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ไอโฟน รุ่นล่าสุดของ Apple กำลังอยู่ในช่วง ‘ขาลง’ เมื่อเทียบกับค่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำจากจีนอย่าง Huawei ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของ ไอโฟน ที่มีจีนเป็นตลาดสำคัญ 

โดยยอดขายสมาร์ตโฟนซีรีส์ ไอโฟน 15 ลดลง 6% ในเดือนที่เปิดตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ตามข้อมูลจากผู้วิจัยตลาด GfK (จีเอฟเค) ซึ่งครอบคลุมยอดขายของผู้บริโภคปลายทางในทุกช่องทาง 

ขณะที่ IDC บริษัทผู้ติดตามอุตสาหกรรมมือถือ ประมาณการว่า การจัดส่งสินค้าของ Apple อาจลดลง 4% ในไตรมาสที่ 3

ทั้ง GfK และ IDC ระบุไปในทิศทางเดียวกันด้วยว่า การกลับมาสู่สปอตไลต์ในวงการมือถือของ Huawei หนนี้ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Apple ต้องสัมผัสกับความพ่ายแพ้ในตลาดจีน 

อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ลงไปถึงสาเหตุที่ทำให้ Apple พ่ายแพ้ Huawei ในจีนครั้งนี้นั้น ทางด้านนักวิเคราะห์ของ เจฟเฟอรีส์ ได้มองว่า มีตัวแปรมาจากแรงหนุนของยอดขายที่แข็งแกร่งในตัวเลขระดับ 2 หลักจากสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ในจีน ซึ่งในที่นี้นำโดย หัวเว่ย / เสียวหมี่ และออเนอร์ 

ขณะเดียวกัน ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในจีนที่ยังทรงๆ ส่งผลให้กำลังซื้อในจีนอ่อนแอลง ซึ่งนั่นก็มีผลอย่างมากต่อการเปิดตัวไอโฟน 15 ซึ่งยังมีราคาสูง และไม่เห็นถึงลูกเล่นอะไรที่ใหม่กว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการวิเคราะห์ถึงมุมมองด้านราคา ว่าจะเป็นตัวชี้วัด ต่อยอดขายในตลาดจีนมากน้อยแค่ไหนนั้น อาจจะต้องบอกว่า ไม่เกี่ยวกันเสียทีเดียว เพราะอันที่จริง ราคาของสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ของ Huawei ก็ไม่ได้มีการกดต่ำลงนัก

หากแต่เป็นเป้าหมายของแบรนด์จีนรายนี้ที่ดูจะไม่อยากยอมแพ้สหรัฐฯ และพยายามพัฒนาสินค้าออกมาสู้ในเชิงของความเป็นชาตินิยมแบบเต็มตัว

ทั้งนี้ บรรดาสื่อใหญ่ต่างประเทศหลายแห่ง ทั้ง Nikkei Asia และ Gizmo China รวมถึงเว็บไซต์ข่าวในจีนอย่าง DoNews ได้รายงานไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วยว่า Huawei ตั้งเป้าโกยยอดขายในตลาดมากถึง 70 ล้านเครื่องในปี 2024 หรือถ้าคิดเป็นยอดขายมือถือที่ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตจากจีนรายนี้ตั้งเป้าไว้นั้น จะเท่ากับเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2022 ที่ผ่านมา 

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Huawei กล้าเพิ่มเป้าหมายยอดขายโทรศัพท์มือถือในปีหน้าก็คือ ปรากฏการณ์ของโทรศัพท์ในรุ่น Mate 60 Pro ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศจีนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของราคา หรือแม้แต่ประสิทธิภาพ ซึ่งมียอดขายเกือบ 1.5 ล้านเครื่องแค่ในช่วงเดือนที่เปิดตัว 

นอกจากนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Mate 60 Pro ได้รับความนิยม เชื่อว่า มาจากการที่ Huawei ไม่ได้พึ่งพาชิ้นส่วนจากบริษัทในสหรัฐอเมริกา และพัฒนา-ผลิตชิ้นส่วนสำคัญอย่าง 'ชิป' ด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรในประเทศจีน ภายใต้ SMIC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสัญชาติจีนสู่ Mate 60 Pro ได้เอง ซึ่งถือเป็นการผงาดด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีชิปครั้งใหญ่จากจีน

และนั่นก็ทำให้การออกวางจำหน่ายโทรศัพท์ในรุ่น Mate 60 Pro ในช่วงที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการสะท้อนสัญลักษณ์ของความเป็นจีน ที่ไม่ยอมแพ้สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มักจะชอบออกมาตรการมาคว่ำบาตรหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น SMIC หรือแม้แต่ตัวของ หัวเว่ย เอง

เรียกว่าเป็นการสร้างความสามัคคีในชาติต่อการเติมเชื้อกระแสบริโภคนิยมในจีนก็ไม่ผิด เพราะในขณะเดียวกัน ทาง อิริค สวี (Eric Xu) รองประธานของ Huawei ก็เคยออกมาเติมเชื้อไฟเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ว่า "ถ้าหากจีนจะต้องการไล่ทันคู่แข่งในเรื่องชิป คนจีนจะต้องสนับสนุนการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีน" ซึ่งคำพูดดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว Mate 60 Pro ไม่นาน

จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด ก็คงจะพอคลายข้อสงสัยได้ว่า ทำไมวันนี้ Huawei สามารถผงาดขึ้นมาครองตลาดมือถือในจีนได้สำเร็จ และทำไมถึงเชื่อได้ว่า ต่อจากนี้ผู้บริโภคชาวจีน จะสนับสนุนแบรนด์ Huawei มากขึ้นไปอีก

นั่นก็เพราะความหวังที่จะดันให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของชาติตน (ชิป) ไล่ตามคู่แข่งทัน หรือแซงหน้าได้นั้น สามารถหักหน้าสหรัฐฯ ได้เต็มๆ นั่นเอง