'ทรัมป์' ประกาศ!! จะห้ามชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ หากได้นั่งแท่นประธานาธิบดีอีกครั้ง

(31 ต.ค.66) โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับปากต่อที่ประชุมชาวยิวพรรครีพับลิกันว่า จะนำคำสั่งห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ กลับมาใช้ หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง 

ทรัมป์ วัย 77 ปี กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดประจำปีของพันธมิตรชาวยิวพรรครีพับลิกัน (Republican Jewish Coalition) ที่ลาส เวกัส รัฐเนวาดา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาจะสกัดผู้ก่อการร้ายเคร่งศาสนาอิสลามไม่ให้เข้าสหรัฐฯ ด้วยการนำคำสั่งห้ามเข้าประเทศกลับมาใช้อีกครั้ง 

ทรัมป์ประกาศใช้คำสั่งดังกล่าวอย่างครอบคลุมกับผู้เดินทางมาจากอิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซีเรีย, เยเมน, อิรัก และซูดาน 

ตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2017 แม้ว่ามีคนฟ้องศาลว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้นับถือศาสนา แต่นโยบายนี้ได้รับความนิยมจากฐานเสียงของเขา ต่อมา โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต สั่งยกเลิกคำสั่งนี้เมื่อรับตำแหน่งในปี 2021

เวทีนี้เป็นการประชุมของผู้บริจาคชาวยิวที่ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ นอกจากทรัมป์แล้ว ยังมีผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2024 ขึ้นเวทีอีกหลายคน เช่น รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่กล่าวว่า เหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เป็นเหตุโจมตีชาวยิวร้ายแรงที่สุดนับจากเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือโฮโลคอสต์

ขณะที่ สว.ทิม สกอตต์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ที่กล่าวว่า ต้องมีเคมีบำบัดทางวัฒนธรรมในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายอย่างกระแสต่อต้านชาวยิว และ นิกกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ประกาศว่า จะแก้ไขนิยามคำว่าต่อต้านชาวยิวให้ครอบคลุมถึงการไม่ยอมรับสิทธิการดำรงอยู่ของอิสราเอลด้วย