‘ไบเดน’ จ่อขอสภาฯ อนุมัติงบเสริมแกร่งกองทัพ ‘อิสราเอล’ ชี้!! เพื่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด

(20 ต.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Biden to seek billions in military aid for Israel as invasion of Gaza nears ระบุว่า ในการปราศรัยของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ต.ค. 66 ตนจะขอให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการสนับสนุนอิสราเอล เพื่อเสริมขีดความสามารถของกองทัพอิสราเอลให้แข็งแกร่งขึ้น โดยย้ำว่า เพื่อรักษาความมั่นคงของสหรัฐฯ จำเป็นต้องสนับสนุนพันธมิตรที่สำคัญอย่างอิสราเอล นี่เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดที่จะจ่ายผลตอบแทนให้กับสหรัฐฯ ไปอีกหลายชั่วอายุคน

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า หากคำขอของไบเดนได้รับการอนุมัติงบประมาณด้านนี้ของสหรัฐฯ จะมีมูลค่ารวมถึง 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 3.5 แสนล้านบาท อีกด้านหนึ่ง บนพื้นดินในฉนวนกาซา ดูเหมือนว่าอิสราเอลกำลังเข้าใกล้การเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน บุกเข้าสู่ฉนวนกาซาเต็มรูปแบบที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งปัจจุบันกองทัพอิสราเอลระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์อยู่บริเวณใกล้ชายแดนฉนวนกาซา 

โดย โยฟ กัลลันท์ (Yoav Gallant) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวกับทหารอิสราเอล เมื่อวันที่ 19 ต.ค.66 ว่า ตอนนี้เราเห็นฉนวนกาซาจากระยะไกล แต่อีกไม่นานเราจะเห็นมันจากด้านใน คำสั่งกำลังจะตามมาในเร็ว ๆ นี้

อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาด้วยการโจมตีทางอากาศหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่นักรบของกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิสราเอลไป 1,400 ราย อีกทั้งยังปิดล้อมฉนวนกาซาประชาชน 2.3 ล้านคนและส่งสัญญาณการบุกภาคพื้นดินเต็มรูปแบบ พลเรือนในฉนวนกาซากล่าวว่าสถานการณ์ของพวกเขาสิ้นหวังมากขึ้น เนื่องจากขาดแคลนอาหาร น้ำ เชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์ มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 3,500 ราย และอีกกว่าล้านคนกลายเป็นคนไร้บ้าน ตามการระบุของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ ด้าน อัยมาน ซาฟาดี (Ayman Safadi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในระหว่างการเยือนอิสราเอลเป็นเวลา 8 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 ไบเดนพยายามทำข้อตกลงเพื่อขอความช่วยเหลือในฉนวนกาซา แต่ประสบความสำเร็จอย่างจำกัด เขากล่าวว่าอิสราเอลและอียิปต์เห็นพ้องกันว่ารถบรรทุก 20 คันพร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์สามารถข้ามเข้าไปในเขตนี้ได้ ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์ 2 รายกล่าวว่า อุปกรณ์ถูกส่งไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 ผ่านการข้ามพรมแดนเพื่อซ่อมแซมถนนในฝั่งฉนวนกาซา ท่ามกลางรถบรรทุกมากกว่า 100 คันยังกำลังจอดรออยู่ในอียิปต์ ด่านดังกล่าวปิดตั้งแต่อิสราเอลเริ่มโจมตีในฝั่งปาเลสไตน์

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า เดวิด แซทเทอร์ฟิลด์ (David Satterfield) ทูตพิเศษสหรัฐฯ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำงานด้านประเด็นด้านมนุษยธรรมในตะวันออกกลาง ยังคงเจรจากับทางการอิสราเอลและอียิปต์ ในเรื่องของรูปแบบที่แน่นอนในการส่งมอบความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันประสบความล่าช้า ขณะที่อิสราเอลเรียกร้องการรับรองว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสไม่สามารถควบคุมสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้

องค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ความช่วยเหลือเร่งกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดความขัดแย้ง ซึ่งปกติแล้วจะมีรถบรรทุก 100 คันต่อวันลำเลียงสิ่งของไปช่วยเหลือชาวกาซา โดยมีรายงานว่า วันที่ 20 ต.ค. 66 อันโตนิโอ กูเตร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางไปเยือนด่านพรมแดนราฟาห์ จุดเชื่อมระหว่างอียิปต์กับฉนวนกาซา ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ กิลาด เออร์ดาน (Gilad Erdan) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวในการชุมนุมในนิวยอร์ก ตำหนิว่า เลขาธิการใหญ่ UN ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย

ขณะเดียวกัน เหตุระเบิดในโรงพยาบาลในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 สร้างความโกรธเคืองแก่โลกอาหรับ และการรุกรานภาคพื้นดินของอิสราเอลที่คาดการณ์ไว้ เพิ่มความหวาดกลัวว่าความขัดแย้งจะขยายวงออกไป ชาวปาเลสไตน์กล่าวโทษการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลว่าเป็นต้นเหตุของเหตุระเบิดในโรงพยาบาล แต่อิสราเอลกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากการยิงจรวดที่ล้มเหลวโดยกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอล

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำหนึ่งสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และโดรนหลายลำที่กลุ่มติดอาวุธฮูตียิงมาจากประเทศเยเมน ซึ่งคาดว่ามีเป้าหมายมุ่งหน้าสู่อิสราเอล โดยกลุ่มฮูตีนั้นเหมือนกับกลุ่มฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในวันเดียวกัน กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรอีกรายหนึ่งของอิหร่าน เปิดเผยว่าา ได้ยิงจรวดใส่ที่มั่นของอิสราเอลในหมู่บ้านมานารา และดึงการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของอิสราเอล เพื่อตอบโต้หลังจากความรุนแรงบริเวณชายแดนเพิ่มความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 17 ปี

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอน และกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ให้ข้อมูลตรงกันว่า เหตุปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ บริเวณชายแดนเลบานอน-อิสราเอล เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่กองทัพเลบานอน กล่าวเพิ่มเติมว่า มีผู้สื่อข่าวชาวเลบานอนเสียชีวิต 1 ราย โดยอ้างว่ามาจากการโจมตีของอิสราเอล นอกจากนั้นยังมีสื่อมวลชน 7 คน ติดอยู่ในวงล้อม และประสานให้กองกำลังของ UN เข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่ฝ่ายอิสราเอล ชี้แจงว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ท่ามกลางความกังวลว่าเวสต์แบงก์ ดินแดนเชื่อมต่อระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน อาจกลายเป็นแนวรบที่ 3 ในสงครามที่กว้างขึ้น ชาวปาเลสไตน์ 13 คนถูกสังหารในการปะทะกับกองกำลังอิสราเอลในค่ายผู้ลี้ภัยนูร์ชามส์ในเมืองทูลคาร์ม ฝั่งตะวันตก ตามรายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 โดยสภาเสี้ยววงเดือนแดง (สภากาชาด) ปาเลสไตน์ ด้าน อาบู โอเบดา (Abu Obeida) โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า พวกตนได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพอิสราเอล และเรียกร้องให้ผู้คนในประเทศอาหรับและมุสลิมประท้วงต่อต้านอิสราเอล.

นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอข่าว New York’s Jewish community rallies for release of Israeli hostages: ‘They should be on the front page’ ระบุว่า ที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันที่ 19 ต.ค. 66 ชุมชนชาวยิวได้รวมตัวกันบริเวณจตุรัสไทมส์ สแควร์ เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 203 คน ที่ถูกจับไปในเหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล วันที่ 7 ต.ค. 66

การชุมนุมจัดโดยสภาอิสราเอล-อเมริกัน ดึงดูดผู้เข้าร่วมทางการเมือง เช่น ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) นักการเมืองพรรคเดโมแครต ผู้นำฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ และ เอริก อดัมส์ (Eric Adams) นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก ซึ่งที่เมืองนี้มีผู้นับถือศาสนายิวประมาณ 1.6 ล้านคน มากกว่าใน 2 เมืองของอิสราเอลอย่างเทลอาวีฟและเยรูซาเลมรวมกัน

ในการชุมนุมครั้งนี้ ทูตอิสราเอลประจำ UN ให้คำมั่นว่า จนกว่าที่ตัวประกันชาวอิสราเอลจะต้องได้กลับบ้าน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และฉนวนกาซาจะไม่มีช่วงเวลาที่เงียบสงบ พร้อมกับ ยังตำหนิท่าทีของ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่มองข้ามความเจ็บปวดของชาวอิสราเอล ซึ่งมีกำหนดการเดินทางไปเยือนด่านชายแดนราฟาห์ จุดเชื่อมต่อระหว่างอียิปต์กับฉนวนกาซา ในวันที่ 20 ต.ค. 66 ว่า ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายที่ลักพาตัวคนที่เรารัก 

“หากเลขาธิการใส่ใจต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมอย่างแท้จริง ตัวประกันของเราก็ต้องมีความสำคัญสูงสุดของเขา” เออร์ดาน กล่าว