‘อิงฟ้า’ ไหว้ขอโทษ ‘มิสแกรนด์แคมโบเดีย’ ปมใช้เท้าเขี่ยชุด หวั่นมงฯ ร่วง-ชุดแหวกอกก้มเยอะไม่ได้ รับภาพที่เห็นเลยดูไม่น่ารัก

(26 ก.ย. 66) จากกรณีดรามา อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ใช้เท้าเขี่ยชุดของมิสแกรนด์แคมโบเดีย 2022 ล่าสุด อิงฟ้ามาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator เดอะ ครีเอเตอร์ ที่ ฮอลล์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เธอได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่าย พร้อมชี้แจงเจตนาที่ทำแบบนั้น

>> ถามถึงประเด็นดรามาใช้เท้าเขี่ยกระโปรง

“จริงๆ ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนเลยนะคะ (ยกมือไหว้) ขออนุญาตขอโทษทางมิสแกรนด์แคมโบเดีย แล้วก็แฟนคลับที่แคมโบเดียด้วย เพราะว่าจริงๆ ภาพมันก็ออกมาค่อนข้างที่จะดูไม่น่ารักจริงๆ แหละ อันนี้เราก็รู้ตัวนะ แต่ว่าอยากให้เข้าใจเจตนาของเรา ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราไม่ได้อยากจะมีปัญหากับประเทศแคมโบเดียอยู่แล้ว เพราะเรายังมีงานที่จะต้องไปทำ แล้วก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะด้วย แล้วกับตัวน้องนาโน มิสแกรนด์แคมโบเดีย จริงๆ มันมีประเด็นมาตั้งแต่เรื่องของการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น ซึ่งต้องบอกจริงๆ ว่า แล้วแต่สถานการณ์ในบางทีอะ เราไม่ได้เจอน้องแค่ช่วงนั้น จริงๆ แล้วเจอตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว ก็มีการรับไหว้กัน ก็ต้องขอบคุณที่มีภาพจากแฟนคลับที่ถ่ายไว้ได้ ว่าเราได้รับไหว้ แต่บางทีมุมกล้องก็ทำให้คนเข้าใจผิดได้

พอมันมีภาพที่เราใช้เท้าเขี่ยกระโปรง ก็บอกว่าเราไม่ถูกกับน้องหรือเปล่า คือจริงๆ จะบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ก็คือถ้าให้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหลายๆ คนได้เห็น ก็จะเห็นว่าฟ้าใส่วิก เราไม่ได้ล็อกมงฯ กับวิกด้วย แล้วมันเป็นการใส่แบบวาง โชว์ที่เดินมันคือฟินนาเล่ เราไม่ได้เดินคนเดียว มันมีคนที่เดินต่อเราติดๆ เลย ถ้าเห็นในคลิป เหมือนมันเป็นเหตุการณ์ที่เราก็ไม่รู้ ว่าเขาจะมีการสะบัดผ้า ถ้าดูในคลิปเราจะมีการฉุกคิดแป๊บเดียว ประมาณ 1-2 วิ ว่าเราจะเอายังไงต่อ ซึ่งถ้าเราก้มคือหนึ่งชุดเราไม่สะดวก เพราะชุดเราแหวกตรงช่วงอก สองคือเรื่องของมงฯ ถ้าเราก้มหรือขยับเยอะ มงฯ เราอาจจะร่วงได้

ซึ่งในหลักการเป็นนางงามแล้ว การออนสเตจก็คือมงฯ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าสมมติว่าภาพมันออกมาว่ามงฯ ร่วง อันนี้มันจะดูไปว่าเราไม่มืออาชีพ ซึ่งจริงๆ ถ้าหลายคนได้ติดตามเวลาที่ฟ้าเดินชุดยาวๆ ฟ้าจะใช้เท้าสะบัดชุดอยู่แล้ว เป็นปกติสำหรับเรา แต่พอเราใช้กับคนอื่น มันเลยอาจจะดูไม่น่ารัก อันนี้ก็ต้องขอโทษจริงๆ ก็น้อมรับทุกคำติ เราก็จะเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ในการแก้ไขในการออนสเตจ ซึ่งเราก็ได้มีการทักไปหาน้องแล้วตั้งแต่มีข่าว เห็นคลิปก็ทักไปหาน้องนาโน ว่าเฮ้ย พี่ไม่สบายใจ อย่างน้อยคือเราห่วงความรู้สึกของน้องก่อน ว่าพี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะ ซึ่งน้องก็ทักกลับมาเป็นภาษาไทยค่ะ ว่าพี่ฟ้า หนูก็ต้องขอโทษพี่ด้วย เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดมาตรงหน้าเรา เขาก็กลัวเราเสียความรู้สึก เราก็กลัวเขาเสียความรู้สึก ท้ายที่สุดก็ได้คุยกัน ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ไว้ร่วมงานกันใหม่”

>> เรารู้สึกยังไงที่คนตัดสินเราจากแค่คลิปสั้นๆ

“หนูไม่ได้เสียใจที่คนว่า แต่หนูแค่ห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า แล้วก็ห่วงความรู้สึกของคนแคมโบเดีย เขาจะคิดว่าเราไม่ให้เกียรติน้องเขาหรือเปล่า แต่จริงๆ เจตนาของเราไม่ได้คิดแบบนั้น มันแค่เป็นการแก้ไขสถานการณ์ช่วง 1-2 วิ อะไรแบบนี้ ภาพมันก็เลยออกมาแบบนั้น”

>> เรากังวลเรื่องปัญหาระหว่างประเทศใช่ไหม

“เราต้องไปร่วมงานกับแคมโบเดียอีกเยอะมากๆ ไหนจะคอนเสิร์ต จะพรีเซ็นเตอร์ และงานต่างๆ ซึ่งเราก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะ เราก็ห่วงความรู้สึกเขา เพราะว่าบางคนก็เข้าใจ แต่แฟนนางงามบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจไปเลย ซึ่งมันก็เป็นภาพลักษณ์ต่อๆ จากเรื่องการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น แต่ก็ได้แต่อธิบายกับสื่อตรงนี้ เราก็เก็บมาหลายวัน เพราะไม่อยากไลฟ์ ไม่อยากพูดถึงประเด็นตรงนี้ แบบอัดคลิปหรือโพสต์อะไร เพราะอยากให้มันดูเป็นการตอบ ที่ดูเป็นทางการที่สุด ซึ่งเราก็อยากจะขอโทษเขาอีกรอบหนึ่ง”

>> ดรามาที่ไม่ดีมาเยอะไหม กับคนที่ไม่เข้าใจเรา

“จริงๆ ก็ไม่เยอะนะคะ เท่าที่หนูเห็นส่วนมากประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะเข้าใจเรา ว่ามันเป็นการแก้ไขสถานการณ์ ณ เวลานั้น แล้วทางองค์กรเองเขาก็เข้าใจนางงาม กับการเตะสะบัดผ้า เราต้องเลือกระหว่างมงกุฎกับผ้า ซึ่งเราก็มองว่าเท้ามันก็ไม่ใช่ของต่ำอะไรสำหรับเรานะ เพราะกับนางงาม เท้าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เราไม่คิดด้วยไง ว่าสะบัดกระโปรงแล้วกล้องมันจะแพลนมาที่เรา เพราะมันเป็นฟินนาเล่ ก็น้อมรับทุกคำติค่ะ ไม่เป็นไร (ยิ้ม)”

>> กังวลไหมกระดิกตัวนิดหนึ่งก็เป็นดรามา

“ไม่ได้กังวลค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้มานานมากๆ แล้ว ก็คุ้นชินกับการมีดรามา แล้วก็มีทั้งคนรัก และก็คนที่เขาไม่ชอบ มันเป็นเรื่องปกติ”

>> เวลามีดรามาเข้ามา เรามองมันยังไง

“คือจริงๆ เรามองถึงปัญหาก่อน แล้วพอเราแก้ปัญหา สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึง ก็คือน้องนาโน พอเราทักไปขอโทษเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ก็คือจบแล้ว ส่วนคอมเมนต์หรืออะไร คนที่จะตัดสินเราแค่ช่วงวินาทีสั้นๆ หนูก็รู้สึกว่าปล่อยได้แล้ว”

>> ยิ่งสูงยิ่งหนาว

“อาจจะด้วยค่ะ เพราะว่าหนูเข้าใจนะ คนมันให้ความสำคัญกับทุกเสี้ยวเลย ในการที่เราจะออนสเตจ หรืออยู่ในแสง อาจจะต้องระวังมากขึ้น”

>> ตอนสะบัดไปแล้วคิดไหมว่าจะมีดรามา

“ตอนบนเวทีไม่ได้คิดค่ะ เพราะตากล้องไม่ได้จับ หลังจากสะบัดกระโปรงไปแล้ว เราก็หันไปมองน้อง จริงๆ ก็น่าจะรู้กันตั้งแต่บนเวทีแล้ว ก็มีทีมงานรีบขึ้นมาจัดแจงให้ต่อ ในภาพมันเหมือนหนูเหยียบไว้ แต่จริงๆ เราสะบัดแล้วมันติด มันเกี่ยว ทีมงานก็เลยมาช่วยเอาออกให้”

>> ถ้าเราไม่ใช้เท้าเขี่ยมันจะเกิดอะไรขึ้น

“หนูว่าลื่นแน่นอน เพราะพื้นที่ข้างๆ เรามันไม่มี คนต่อไปเขาเดินติดๆ เราเขยิบก็ไม่ได้ เพราะมีคนอื่นๆ ต่อๆ กัน มันต้องแก้ที่ตัวเราเลย ณ ตอนนั้น เพราะคนอื่นเขารอ”

>> ถ้าต่อไปมันมีแบบนี้อีก เราเตรียมแผนสองไหม

“โห พูดยากเลย ถ้ามันเป็นโชว์เดี่ยว หรือโชว์สองคน มันสามารถมีพื้นที่ในการแก้ได้ แต่พอมันเป็นฟินนาเล่ที่มีหลายคน มันคอนโทรลยากนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็จะระวังให้มากขึ้น ถ้าเป็นรอบหน้าก็อาจจะแบบ… แต่ภาพมันก็จะออกมาไม่สวยไง ถ้าเรารอให้ทีมงานมาเขี่ยให้ ภาพมันก็ไม่ได้อีก เพราะจริงๆ เราคิดว่ากล้องมันไม่ได้แพลน เราก็รีบจัด แต่กล้องก็คือรีบเลย (ยิ้ม)”

>> พอได้เคลียร์แล้วสบายใจไหม

“สบายใจค่ะ ก็หลังจากที่เริ่มมีดรามามากขึ้น หนูก็เลือกที่จะไม่อ่านดีกว่า เพราะว่าคนที่ควรจะเข้าใจมากที่สุดคือเราขอโทษไปแล้ว แล้วเขาเข้าใจก็คือจบ ถามว่าบั่นทอนไหมตอนดรามาถาโถม ก็ชินแล้วอะ แต่ก็ถ้าสมมติว่าเราไม่รู้จักตัวเอง เราก็อาจจะมีคิดเหมือนกัน เพราะภาพมันก็ออกมาไม่น่ารักจริงๆ”