‘ชาย’ เปิดใจ ชีวิตครอบครัวกว่าจะลงตัว ต้องแลกมาด้วยน้ำตา เคยโหมงาน 7 วัน ไม่ได้เจอหน้าลูก แต่เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดเลยต้องทำ

(26 ส.ค.66) ดังเป็นพลุแตกสุดๆ สำหรับการถ่ายทอดบทบาท LGBTQ บท ‘พ่อเกรซ’ ในละครเนื้อหากินใจเรื่อง มาตาลดา จนทำให้นักแสดงมากฝีมือ ‘ชาย-ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ’ ถูกเป็นที่พูดถึงสนั่นโซเชียล งานนี้ตั้งโต๊ะเคลียร์แบบเจาะลึก ผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม เผยเบื้องหลังความสำเร็จฝึกปรือวิทยายุทธ์การแอคติ้ง แอบซุ่มเงียบอ่านบทตีความขณะปฏิบัติกิจในห้องน้ำ พร้อมเปิดใจการบาลานซ์งานกับชีวิตครอบครัว ที่กว่าจะจัดสรรได้ลงตัวต้องแลกมาด้วยคราบน้ำตา

“กระแสงานละครดีมาก คนยังชื่นชมอย่างต่อเนื่อง หายเหนื่อยมาก ที่สุดแล้ว เพราะมันผ่านอะไรมาเยอะมาก กับการที่ได้เป็นตัวละครตัวนี้ พอได้รับฟีดแบ็ก พอได้เจอคนที่ชื่นชม และชื่นชอบตรงนี้แล้วหายเหนื่อย มันมีค่ามหาศาลมากจริงๆ”

ตอนแรกที่ได้เห็นบทแล้วตีความยังไง? “ชายมักจะอ่านบทตอนเข้าห้องน้ำ เป็นเวลาที่เป็นของเราจริงๆ คือได้อ่านแล้วก็แบบว่า นี้มันคืออะไรนี้ มันมหัศจรรย์มาก แล้วชายรู้สึกดีกับมันมาก นั่งคิดอยู่คนเดียวว่าคนอื่นจะรับรู้มั้ยว่ามันมีค่ามากตรงนี้ เหมือนเฝ้ารอดูว่าระหว่างถ่ายทำ มันก็เห็นสิ่งมหัศจรรย์เข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ลุ้นอยู่ตลอดว่าตอนตัดต่อ ออกอากาศคนดูจะชอบไหม เขาจะอินไปกับด้วยหรือเปล่า”

ช่วงหลังๆ รับแต่บท LGBTQ กดดันบทต่อๆ ไปไหม? “ไม่เลยไม่กดดัน ยังรับทุกงาน ลูกยังเล็กอยู่ ทุกวันที่ออกจากบ้านมาทำงานทุกวัน เพราะว่าลูกยังเล็ก เราต้องตั้งใจให้ชีวิตที่ดีที่สุดให้ลูกให้ได้ ชายยังมีความตื่นเต้นกับทุกบทบาทที่เข้ามาตลอดเลย มันมีอะไรที่ยังอยากทำอีกเยอะ อย่างเราอยู่ในวงการมา 20-30 ปี ตอนที่เราได้บทพ่อเกรซ เราก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยทำ น่าจะมีอะไรท้าทายเข้ามาอีก”

เมื่อถามถึงเรื่องครอบครัว ชาย ชาตโยดม ได้เผยต่อว่า “เราเป็นคนติดลูกมาก แต่มันย้อนแย้งนิดนึง คือด้วยความที่เรามีลูกก็อยากจะดูแลเขาให้ดี เราก็ต้องออกไปทำงาน ทำมาหากินอะไรแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันการออกไปข้างนอกเราเลยไม่มีโอกาสได้เห็นเขาเติบโต ได้ใช้เวลาอยู่กับเขา ถ้าช่วงที่ชายจัดแจงเวลาได้ส่วนนึง กลับมาถึงบ้านชายจะพาลูกเข้านอน เคยหนักสุดตอนทำงาน 7 วัน ต่อเนื่องกันเป็นเดือนแล้วไม่เจอลูกน้อยเลย กลายเป็นว่าทำงานไม่ได้เลย ชายไปเจออาจิ๋มผู้จัด ชายไปนั่งร้องไห้กับอาจิ๋มเลย คือตอนนั้นชายไม่ไหวแล้ว เรารับงานเยอะจนไม่มีเวลาอยู่กับเขา อาจิ๋มเลยบอกว่าคนเขาไม่ว่าหรอก ถ้าเราจะเก็บเวลาไว้สักวันนึง เพื่อที่จะได้อยู่กับครอบครัวบ้าง ก็ไม่ผิด แต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรารับงานเขามาแล้ว เราก็เลยอยากทำให้เขาเต็มที่ ตอนนี้ก็เลยปรับมาเหลือ 1 วันที่ต้องหยุดให้กับครอบครัว”