‘อ.เฉลิมชัย’ ชวนคิด ยุคสมัยเปลี่ยนไป ต้องตามเด็กให้ทัน รับ!! ตนเป็นคนแก่ แต่ฟังเด็กรุ่นใหม่ หวังดันชาติเดินต่อ
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @jaramphonsornphong แชร์คลิปวิดีโอของ ‘อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์’ ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเด็กรุ่นใหม่ในประเทศไทย พร้อมเผยว่า ตนนั้นก็รู้สึกศรัทธาในความคิดของเด็กรุ่นใหม่เช่นกัน โดยในคลิประบุว่า…
“ความสามารถของคุณดีกว่าเขาหรือ? ก็ไม่ใช่ คนรุ่นใหม่เขารวดเร็ว เพราะเขาต้องแข่งกับโลกทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่แข่งกันในประเทศ แต่มันคือการแข่งขันกับโลกทั้งหมด ดังนั้น ความคิดของเด็กเหล่านี้มันจึงต้องรวดเร็ว ฉับไว ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงเร็วจนทำให้คนแก่ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว แต่คุณต้องยอมรับว่านี่คือ ‘โลกใหม่’ โลกใหม่ไม่ใช่เพียงในประเทศของเราอย่างเดียวที่เปลี่ยน แต่มันเปลี่ยนทั้งโลก จงจําไว้ว่า ถ้าตราบใดที่คนรุ่นใหม่ของเรา ไม่เกิดการแปลงเปลี่ยนที่รวดเร็วขนาดนี้ เราจะสู้กับคนทั้งโลกได้อย่างไร?”
“ผมจึงศรัทธาต่อคนรุ่นใหม่ ผมบอกได้เลย ผมสอนคน ผมให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่นําเสนอผลงาน ผมชอบความคิดเด็กรุ่นใหม่ ผมรับฟังเขา ในการประชุมทุกครั้งเด็กรุ่นใหม่ เด็กอายุเพียงแค่ 20 กว่าปี สามารถยกมือแล้วบอกว่าสิ่งที่อาจารย์คิดมันผิด ผมคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ อาจารย์เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อาจารย์พิจารณา เป็นต้น ผมเป็นคนแก่ที่ไม่ได้มองเด็กว่าก้าวร้าว แต่ผมเห็นว่าประโยชน์ที่เด็กคอยเสนอนั้นคือประโยชน์ของส่วนรวม ผมไม่เคยคิดว่า สิ่งนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวต่อตัวเอง หรือคอยมาทับถมความคิดของผม แต่กลับกัน ผมกลับศรัทธาต่อความคิดเหล่านี้”
“การบริหารจัดการวัดของผมจึงยิ่งใหญ่และงดงาม เด็กรุ่นใหม่ของผมขึ้นครองอํานาจทั้งหมด คุณรู้ไว้เลยว่าที่วัดผมไม่มีคนแก่ และคนแก่กลายเป็นที่ปรึกษาหมด คนหนุ่มได้มีโอกาสเติบโตก้าวหน้าหมด ทั้งหัวหน้าฝ่ายทุกฝ่าย นี่คือสิ่งที่ผมใช้คนรุ่นใหม่ในการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ดังนั้น ผมจึงศรัทธาสิ่งนี้มากกว่า ผมเป็นคนไม่เชื่อในอายุ แต่ผมเชื่อในความคิดของทุกคน และมองทุกคนคือ ‘คนเท่าเทียมกัน’ ไม่ใช่คิดว่าคนนี้เป็นคนแก่แล้วคนรุ่นใหม่จะต้องเชื่อฟัง ผมไม่มีความคิดอย่างงั้น ถ้าคิดแบบนั้นแล้วคุณจะเจริญได้อย่างไร?”
“ดังนั้น ในการประชุมของผม คนกว่า 145 คน เด็กรุ่นใหม่ อายุ 20 กว่าปี สามารถยกมือแล้วสวนทางกับคนอายุ 60 ปีได้แบบเสรีภาพ แล้วความคิดของเขาจึงนําเสนอมาสู่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่วัดมากกว่าผม ผมจึงขอบอกว่าพวกเขาเก่งกว่าผม ณ เวลานี้”
“ผมรู้สึกดีใจที่พวกเขาคิดได้ดีกว่า แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทําได้ดีอีกด้วย โดยตอนนี้ผมได้วางมือกับ ‘วัดร่องขุ่น’ ทั้งหมด เพราะผมต้องการให้อิสรภาพทางความคิดพวกเขา ต่อยอดจากความคิดที่ยอดเยี่ยมของผม ไปสู่ความคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า แต่ถ้าพวกเขาใช้ความคิดของผมที่ยอดเยี่ยมตลอดเวลา ความคิดของผมก็จะ ‘ล้าสมัย’ ไปในที่สุด ผมรู้ตัวเองดีว่า วันเวลาของผมจะล้าสมัย ผมต้องสร้างคนรุ่นใหม่ และความใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เมื่อผมอายุ 50 ปี ผมได้ใช้เวลาทั้งหมด 15 ปีในการสร้างคน เพื่อต่อยอดสมองอันบัดซบของผม ความงี่เง่าของผม สมองแก่ ๆ ของผมจะจบลงแล้ว… ดังนั้น ผมต้องการ ‘สร้างสมองใหม่’ ขึ้นมา”
“ณ เวลานี้ สมองของผมใช้ไม่ได้แล้ว สู้เด็กเขาไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงต้องยอมรับเลยว่า ผมเป็นคนแก่ที่สู้เด็กไม่ได้ คุณจงยอมรับซะ อย่างเช่นผม ผมยอมรับเลย ผมเป็นนักประชาธิปไตย ผมไม่รู้สึกว่าผมแก่กว่าเขา แต่ผมเห็นว่าเด็กเขาต้องกล้าหาญในการแสดงออก และกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา ความคิดเห็นของเขาคือ ‘ความร่วมสมัย’ คุณจําไว้เลยว่านั่นคือสิ่งที่จะทําให้ชาติเติบโตต่อไปได้”
ที่มา : https://vt.tiktok.com/ZSLasJBY3/