‘แพทย์’ แจงสาเหตุ ‘มดดำ คชาภา’ มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ชี้ เกิดจากเส้นประสาทบนใบหน้าอักเสบ เตือน!! เกิดได้กับทุกวัย

(13 ก.ค. 66) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีข่าว ‘มดดำ คชาภา’ ตันเจริญ พิธีกร มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกจากเส้นประสาทอักเสบ ว่า อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้หน้าเบี้ยวครึ่งซีก

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า เป็นผลมาจากเส้นประสาทใบหน้า หรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งอยู่ตรงใบหน้าแต่ละข้างทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้ม ทำหน้าบึ้ง หรือหลับตา รวมทั้งรับรสจากลิ้น และส่งต่อไปยังสมองเกิดการอักเสบส่งผลต่อการรับรส การผลิตน้ำตา และต่อมน้ำลาย ปากเบี้ยว

“อาการนี้ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด อาจมีความสัมพันธ์จากการติดเชื้อไวรัสบริเวณใบหน้า เช่น โรคอีสุกอีใส เชื้อเริม ส่วนปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ตั้งครรภ์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนแอ และภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ” นพ.วีรวุฒิ กล่าว

ด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ โดยจะฟื้นตัวภายใน 3 สัปดาห์ แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจการทำงานของประสาท (EMG) การรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คือ การให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ และการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม

นพ.ธนินทร์ กล่าวต่อว่า การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น กระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจน เนื่องจากสาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าที่มักจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายภายในระยะเวลาเป็นสัปดาห์

“ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือใส่แว่นกันแดด ร่วมกับใช้น้ำตาเทียม และปิดตาเวลานอนเพื่อลดอาการเคืองตา ตาแดง หรือมีแผลที่แก้วตา ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ เพราะผลของการรักษาจะได้ผลดีถ้าได้เริ่มรักษาภายใน 3 วัน” นพ.ธนินทร์ กล่าว