พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมทูตอินโดนีเซีย ร่วมส่งกลับผู้เสียหายค้ามนุษย์หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ NRM

วันนี้ (26 มิ.ย.66) เวลา 08.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) พร้อมด้วยคุณซุกโม ยูโวโน อัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้เดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อมาส่งผู้เสียหายชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จำนวน 9 ราย หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการของกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ซึ่งดำเนินการที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเดินทางกลับไปยังประเทศอินโดนีเซียอย่างปลอดภัย

หลังจากที่เมื่อประมาณเดือน พ.ค. 66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับการประสานจากสถานทูตอินโดนีเซีย กรณีมีผู้เสียหายสัญชาติอินโดนีเซียจำนวนหลายราย ถูกหลอกเดินทางไปทำงานที่ประเทศเมียนมา โดยถูกบังคับให้ทำงานหลอกผู้อื่นลงทุนเงินคริปโต ทนไม่ไหวจึงได้พยายามหลบหนีข้ามฝั่งมายังประเทศไทย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร., ภ.6 และ สตม. ประสานให้การช่วยเหลือผู้เสียหายชาวอินโดนีเซียให้สามารถข้ามฝั่งมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย โดยเมื่อเดือน พ.ค.66 สามารถช่วยเหลือข้ามมาได้จำนวน 25 ราย และในเดือน มิ.ย.66 อีกจำนวน 22 ราย ซึ่งทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือและนำเข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) และก่อนหน้านี้ ได้ส่งผู้เสียหายกลับไปแล้วจำนวน 25 ราย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะส่งกลับเพิ่มอีกจำนวน 9 คน ในวันนี้ ยังเหลือผู้เสียหายชาวอินโดนีเซียที่ยังอยู่ในกระบวนการอีกจำนวน 13 ราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศ หลังจากที่ได้รับการประสานข้อมูลจากสถานทูตอินโดนีเซีย ได้สั่งการให้ ภ.6 สตม. และชุด ศพดส.ตร. ประสานช่วยเหลือเหยื่อขาวอินโดนีเซียซึ่งถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเมียนมา และนำมาเข้ากลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองดูแลและช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จริงแต่ไม่ประสงค์จะดำเนินการตามกฎหมายที่ประเทศไทย จึงได้ประสานกับสถานทูตอินโดนีเซียเพื่อช่วยเหลือส่งกลับผู้เสียหายทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ส่งกลับไปแล้วจำนวน 25 ราย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 อีกจำนวน 9 ราย ขณะนี้ยังเหลือผู้เสียหายสัญชาติอินโดนีเซียที่ยังอยู่ในกระบวนการอีก 13 ราย ซึ่งจะได้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น และส่งกลับตามความต้องการของผู้เสียหายต่อไป นับเป็นอีกครั้งที่ความร่วมมือระหว่างประเทศของไทยและอินโดนีเซียในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ดำเนินไปได้ด้วยดี