ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่พลเมืองดี ช่วยชีวิต 3 นักท่องเที่ยวจมน้ำ

วันนี้ (20 มิ.ย.66) เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่พลเมืองดีและตำรวจรวมทั้ง 4 ราย เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจมน้ำ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” 
นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้กล่าวคือ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. 
ได้เกิดเหตุ พ่อ แม่ ลูก ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวประสบเหตุจมน้ำ บริเวณแก่งตาเบิ้ม 
หลังวัดชำนาญรังสรรค์ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก 

พลเมืองดี 3 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ได้แก่ 
1.)ด.ต.ศักรินทร์ คณะธรรม ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.นครนายก
2.) นายปรีชา แก้วเงิน
3.) นายอักษร โพธิ์เงิน
4.) นายวุฒิศักดิ์ มั่งคั่ง หรือ น้องยูโร

ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและเห็นเหตุการณ์ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือจนผู้ประสบเหตุทั้ง 3 คนปลอดภัย ในระหว่างการให้ความช่วยเหลือ พลเมืองดี คือ นายปรีชา แก้วเงิน ได้ให้ความช่วยเหลือจนหมดแรง จมน้ำ และได้รับการปฐมพยาบาล CPR จนปลอดภัย และนายวุฒิศักดิ์ มั่งคั่ง หรือ น้องยูโร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนนครนายกวิทยาคม เกิดสำลักน้ำ จนทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด จนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ปัจจุบันได้รับการรักษาพยาบาลจนหาย และกลับมาเรียนได้เป็นปกติ เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความประทับใจและได้รับความชื่นชมจากสังคมเป็นอย่างมาก

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุให้พ้นจากอันตราย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของตนเองเลยในการเข้าช่วยเหลือ จึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล คนละ 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม

ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”