เปิดสตอรี่ ‘เก่งลายพราง’ อดีตคนคุกกลับใจกับชีวิตกินหรูอยู่สบาย หรือแท้จริง ‘ธุรกิจหมึกย่าง’ เป็นแค่ฉากบังหน้าเพื่อไว้ฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 รายการ ‘ถอนหมุดข่าว’ เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดลับ เก่ง ลายพราง ฟอกเงินจากเว็บพนัน ผ่านสตอรี่หมึกย่างอำพราง

‘เก่ง ลายพราง’ นายจิรายุ ยิ้มอำไพ อินฟลูเอนเซอร์ดัง ที่ขายลุค ‘คนคุก’ ได้เวลากลับเข้าคุกอีกรอบแล้ว หลังโดนตำรวจไซเบอร์จับข้อหาชักชวนคนเล่นการพนัน จากการโฆษณาเชิญชวนคนไปเข้าเว็บพนันออนไลน์ อย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งแปะลิงก์ ทั้งพูดโต้งๆ ออกไลฟ์สด พอถูกจับก็อ้างว่า เพราะธุรกิจ “หมึกย่างลายพราง” ของตัว ที่เคยขายดีทำรายได้วันละเป็นแสนบาท ตอนนี้ยอดตกหนัก เหลือแค่วันละ 6 พันบาท เงินไม่พอยาไส้ จำต้องมารับจ้างดึงคนไปเล่นพนัน มีรายได้เดือนละ 300,000 บาท

หากพิจารณาเรื่องราวของ ‘เก่ง ลายพราง’ ตั้งแต่ต้น สามารถฟันธงได้เลยว่า มันล้วนเป็น ‘สตอรี่’ ที่เขาจงใจสร้างมา ให้มีความดรามาเรียกคนติดตาม

เขาขายสตอรี่คนคุกที่ออกมาสร้างครอบครัวใหม่อย่างสุจริต โอ้โห ช่างโดนใจสายโซเชียล สังคมไทยเป็นนักให้โอกาสคนอยู่แล้ว

‘หมึกย่างลายพราง’ ไม้ละ 120 บาท ของ ‘เก่ง ลายพราง’ เลยดังเปรี้ยงปร้าง ขายดีจนเจ้าตัวออกอาการคึก ประกาศจะขยายสาขา แต่สตอรี่จริงๆ ที่ซ่อนไว้เนียนๆ ก็คือ ธุรกิจหมึกย่างของเขา มันก็มีไว้เพื่อฟอกเงินกลายๆ เพื่อจะตอบสังคมได้ว่า ทำไมเขาถึงใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบาย มีทั้งบ้านหลังใหญ่ รถแพงๆ หลายคัน เที่ยวนอนรีสอร์ท พลูวิลล่าแพงๆ เอามาอวดให้ FC ฮือฮาตลอด เขาเบี่ยงเบน ให้คนเข้าใจไปว่าเขารวยจาก ‘หมึกย่างลายพราง’ ทั้งที่เขารวยจากเว็บพนันต่างหาก

‘หมึกย่างลายพราง’ จึงมีสถานะก็แค่ ‘หมึกย่างอำพราง’ ธุรกิจทำเงินจริงๆ ของเขา คือเว็บพนัน จากที่อ้างว่าได้เงินจากแอดมินแค่เดือนละ 300,000 บาท ก็ไม่น่าจะเป็นคำให้การตามจริง เนื่องจากทุกวันนี้ ธุรกิจเว็บพนันเจอปัญหาใหญ่ คือ ขาดแคลนอินฟลูเอนเซอร์ ที่จะมาชักชวนเด็กๆ เยาวชน มาเป็นเหยื่อ เพราะหลายรายถูกจับเข้าตะรางไปแล้ว หลายรายก็เริ่มไหวตัว ขืนทำต่อละก็คุกแน่นอน เลยชิงวางมือกันไปหมด เหลือแต่อินฟลูเอนเซอร์ ที่วอนนอนคุกอย่าง ‘เก่ง ลายพราง’ ที่ยังวาดลวดลายอย่างไม่แคร์สื่อ

ซึ่งภาวะที่วงการขาดแคลน ‘คนชั่วที่ใจกล้า’ นี่เอง ประกอบกับเขาทำงานแบบเกินร้อย ชักชวนคนเล่นพนันต่อหน้ากล้องอย่างชัดเจน ในสไตล์คล้ายกับ ‘เสี่ยโป้’ เคยทำมาก่อน

ราคาค่าตัวของ ‘เก่ง ลายพราง’ น่าจะไม่ใช่แค่ 300,000 ต่อเดือน อย่างที่เขาอ้างกับตำรวจ แต่น่าจะเป็นเงินถึงหลักล้าน สอดคล้องกับชีวิตกินหรูอยู่สบาย หรือแม้แต่พูดอวดว่า เขายังติดการพนัน แค่เจียดเงินบางส่วนมาเล่น ก็ยังเล่นเสียไปถึง 3 ล้านบาท รายได้แค่ 300,000 บาทต่อเดือน จากเว็บพนัน คงไม่มากพอที่จะทำเช่นนั้นได้

เรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนของสังคมไทย อย่าหลงเชื่อสตอรี่ดราม่าอะไรง่ายๆ และก็อย่าโลกสวย เชื่อว่าคนบางคนจะกลับตัวกลับใจ ทำมาหากินสุจริตได้