'มาร์ค' ลุยหาเสียงย่านบางรัก ขอเสียง ปชช. หนุน 'เจิมมาศ'  โอด!! เสียดายรัฐไม่สานต่อนโยบายสมัยตนเป็นนายกฯ 

'มาร์ค' ลุยย่านบางรัก หาเสียงช่วย 'เจิมมาศ' หวังประชาชนให้โอกาสคนมีอุดมการณ์-ทำงานสม่ำเสมอ เลือกพรรคการเมืองสุจริต เสียดายรัฐบาล ไม่สานต่อนโยบายสมัยเป็นนายกฯ แก้ค่าไฟพุ่ง ให้ ปชช. ใช้ไฟฟรี -คิดอัตราก้าวหน้าสำหรับผู้ใช้ไฟรายใหญ่ ด้าน 'มาดามเดียร์' เชิญฟังปราศรัยใหญ่ วงเวียนใหญ่ 23 เม.ย.นี้

(20 เม.ย.66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ลงพื้นที่ย่านบางรัก ช่วยขอเสียงสนับสนุนให้ นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ผู้สมัคร ส.ส.  กทม.เขต 1 'พระนคร-ป้อมปราบ-สัมพันธวงศ์-ดุสิต-บางรัก' โดยได้เดินทักทายพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่สัญจรไปมาตามริมถนน พร้อมแจกใบปลิวแนะนำตัวผู้สมัคร และฝากให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าประชาชนจะให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยเฉพาะนางเจิมมาศ ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และวันนี้ก็ดีใจที่พี่น้องประชาชนยังเข้ามาทักทายแสดงความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าประชาชนจะเห็นการทำงานของนางเจิมมาศมาตลอดและจะให้การสนับสนุน ทั้งนี้ยอมรับว่าการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้รุนแรงมากและมีหลายปัจจัย ที่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน แต่เรายังคงเน้นย้ำในความเป็นประชาธิปัตย์ 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงประเด็นค่าไฟฟ้าแพง ว่า ในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ชัดเจนมากในการไม่ขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยคิดตามราคาต้นทุน แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลต่อมาได้ยกเลิกแนวคิดนี้ ส่วนค่าไฟฟ้านั้น ตนก็มีแนวคิดในการใช้ไฟฟรีสำหรับประชาชนที่ใช้ในครัวเรือนและปริมาณไฟไม่สูง และผู้ที่ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ควรจ่ายในอัตราไฟก้าวหน้า ซึ่งน่าเสียดายว่าเรื่องการบริหารพลังงานในวันที่ราคาตลาดโลกตก แต่ไม่มีการบริหารจัดการให้ทั่วถึงเพียงพอเพื่อช่วยในยามที่ราคาแพง  ซึ่งนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองถ้าเขียนมาแล้วว่าทำได้ก็ต้องแก้ปัญหาได้ และอยู่ที่ว่าเมื่อแก้แล้วจะมีผลกระทบถึงประชาชนอย่างไรและยั่งยืนหรือไม่ 

นายอภิสิทธิ์ ยังได้ให้กำลังใจกับประชาชนในการตัดสินใจเลือกผู้แทนฯเพราะเข้าใจว่าเมื่อออกมาใช้สิทธิ ย่อมคาดหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และในช่วงนี้หากมีอะไรที่ต้องการให้พรรคการเมืองช่วยแก้ไขเรียกร้องอะไรเพื่อตนเองก็ขอให้สะท้อนปัญหา และเน้นย้ำให้เลือกพรรคการเมือง และนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดอุดมการณ์นี้มาโดยตลอด 

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า จากที่ได้ลงพื้นที่สัมผัสได้ถึงการตอบรับที่ดีมากขึ้น และบรรยากาศที่อบอุ่นจากการให้การต้อนรับของประชาชนกับทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในเขตนี้ นางเจิมมาศ มีความมั่นใจอย่างยิ่ง เพราะนางเจิมมาศได้ทำงานและพิสูจน์ให้กับประชาชนได้เห็นมาตลอด 4 ปี ว่าแม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง และแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.ในกทม.เลย แต่การทำงานของเราได้พิสูจน์ให้เห็น และสิ่งที่อยากบอกไปยังประชาชน คือ การพิสูจน์ความสม่ำเสมอในการทำงาน ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากในการที่เราจะต้องเลือกตัวแทนฯที่เขาต้องมีความหนักแน่นในอุดมการณ์ทางการเมือง และความตั้งใจในการทำงานที่ ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยความสม่ำเสมอในการทำงาน และการที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน มาช่วยหาเสียงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นถึงคุณค่าของประชาชน เห็นคุณค่าในการลงพื้นที่ตามวิถีของระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นจุดยืนและเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์

น.ส.วทันยา กล่าวถึง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นอกจากจะมีนโยบายที่แก้ไขปัญหาประชาชนระดับประเทศแล้ว ยังมีปัญหาของประชาชนในระดับท้องที่ ระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นหนึ่งส่วนที่ ส.ส. หรือสมาชิกของพรรคได้สะท้อนในการทำนโยบายของพรรค เพื่อนำเสนอในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะใน กทม. ที่มองว่ามีปัญหาหลายภาคส่วน จึงจะเห็นได้ว่าในส่วนของ กทม. เราได้มีนโยบายแยกเฉพาะ เช่น การแสดงจุดยืนในการต่อสู้กับฝุ่น PM 2.5 และการบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนไปในพื้นที่ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งก็ไม่ได้มีเฉพาะน้ำท่วมน้ำแล้ง แต่ยังมีปัญหาน้ำเค็ม ทำให้ส้มบางมดที่เป็นความภาคภูมิใจของคน กทม. ปัจจุบันส้มบางมดเริ่มน้อยลง เพราะปัญหาของน้ำเค็ม ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนจากสวนส้มมาเป็นสวนมะพร้าว ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการปราศรัยใหญ่โซนฝั่งธนฯ ของพรรคฯ ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่