เลือกตั้ง 66 ตัวกำหนดจุดยืนไทย ในขณะ 'จีน-สหรัฐฯ' ขับเคี่ยวกัน หากได้ผู้นำอ่อนประสบการณ์ อาจเป็นการชักศึกเข้าบ้าน

                  

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เรื่องที่สำคัญมาก ๆ เรื่องหนึ่งที่คนไทยไม่ได้ใส่ใจ ด้วยคิดว่า เป็นเรื่องไกลตัวคือ “ตอนนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในเกมช้างชนกัน (ระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน) ในบริบทของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” อันที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวคนไทยมาก ๆ เพราะที่ตั้งของประเทศไทยอยู่ตำแหน่งที่ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ดีที่สุดในทวีปเอเชีย

                          

การเลือกตั้งครั้งนี้ส่งผลถึงผู้ที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งต้องมีความรู้ ความสามารถ เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีแนวคิดตลอดจนวิธีที่จะทำให้ประเทศชาติ บ้านเมือง รอดพ้นจากผลกระทบจากเกมช้างชนกันครั้งนี้ไปได้อย่างดีที่สุด กล่าวคือ ประเทศชาติ บ้านเมือง และคนไทยทั้งหมดทั้งมวลจะเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้อย่างน้อยที่สุด... เพราะการเจรจา ไม่สามารถใช้ที่ปรึกษาแทนได้ ต้องเป็นระดับ ผู้นำต่อผู้นำ…ซึ่งต้องเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ชีวิตสูง เพราะเดิมพันหนนี้สูงมากด้วยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากเกิดความผิดพลาดจะร้ายแรงและรุนแรงมาก จนไม่อาจจะคาดคิดได้

                       

ในอดีตไม่กี่สิบปีก่อน ประเทศไทยเกือบจะเต็มไปด้วยซากปรักหักพังเหมือนเช่นประเทศยูเครนในปัจจุบัน เพราะในช่วงสงครามเวียดนาม ไทยได้ส่งทหารไปร่วมรบกับสหรัฐ ยอมให้สหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพที่อู่ตะเภา ตาคลี อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา ฯลฯ รวมทั้งที่ดอนเมือง เพื่อให้สหรัฐฯได้ขนระเบิดไปทิ้งที่เวียดนาม กัมพูชา และลาว จนทำให้ลาวเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดมากที่สุดในโลก (โดยเครื่องบินของสหรัฐฯนำระเบิดมาทิ้งในดินแดนลาว ระหว่างปี ค.ศ. 1964-1973 กว่า 5.8 แสนเที่ยว หนักรวมกว่า 2 ล้านตัน)

                   

เมื่อสหรัฐฯ พ่ายแพ้ในการทำสงครามเวียดนาม ต้องขนทหารสหรัฐฯ กลับ โดยทิ้งให้ประเทศไทยต้องปากกัดตีนถีบในการช่วยเหลือตัวเองเพื่อป้องกันประเทศ ในช่วงนั้นไทยเราไม่สามารถหนีภาพการเป็นสาวกประเทศที่สวามิภักดิ์สหรัฐฯ อย่างที่สุดไม่ได้ และเวียดนามก็ประกาศบุกไทยเพื่อเป็นการแก้แค้นที่ไทยยอมให้สหรัฐฯ ตั้งฐานทัพในประเทศ

                 

เมื่อสหรัฐฯ ขนทหารออกจากประเทศไทยไป รัฐบาลไทยก็ต้องช่วยตัวเองในการป้องกันประเทศ แต่ก็ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เพียงพอต่อการต้านกองทัพเวียดนาม (ซึ่งขณะนั้นถูกจัดให้มีความแข็งแกร่งอันดับที่ 4 ของโลก ในขณะที่กองทัพไทยในยุคนั้นยังไม่ติด 20 อันดับแรกเลย) รัฐบาลไทยจึงร้องขอต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ขอใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐขนกลับไม่หมด แต่คำตอบจากรัฐบาลสหรัฐฯ คือ ไม่อนุญาตให้รัฐบาลไทย นำอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ไปใช้ในการป้องกันประเทศ พร้อมทั้งจัดการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตกค้างในไทยกลับประเทศจนหมด

                  

จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งแถลงนโยบายต่อสภาในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2518  พร้อมทั้งประกาศว่า ปรารถนาจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นใหม่ อันเป็นการส่งสัญญาณจากไทยไปให้จีนก่อน และ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็บินเงียบ ไปพบผู้นำจีน และได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันได้สำเร็จ จนทำให้บรรดาประเทศโลกเสรีต้องตกตะลึง

                

ทั้งการต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีไทยนั้น ถือเป็นการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์อย่างที่จีนไม่เคยต้อนรับใครมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีแห่งประเทศมหาอำนาจ หรือมุขบุรุษของประเทศใด ๆ  นอกจาก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรี โจวเอนไล และ รองนายกรัฐมนตรี เติ้งเสี่ยวผิงแล้ว เหมาเจ๋อตุง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวัยชรา ยังให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีไปพบท่าน ขณะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน และคุยกันอย่างเป็นกันเอง เป็นเวลายาวนานถึง 58 นาที

                   

ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ทำให้ไทยรอดจากสงครามจากเวียดนามที่พยายามจะบุกไทยได้ เพราะผู้นำไทยกล้าตัดสินใจ ไม่ใช่ใช้แต่ วาทกรรม ไว้เพื่อหลอกล่อหาคะแนนเสียงจากประชาชน เวลา 48 ปีผ่านไป วันนี้ไทยต้องกลับมาอยู่ท่ามกลางเกมข้างชนกันอีกครั้ง ก็ด้วยเพราะที่ตั้งของประเทศไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น วันนี้ประเทศไทย จำเป็นต้องได้ผู้นำที่ มีความรู้ มีประสบการณ์ ในช่วงบริบทของการดำเนินยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เป็นอย่างมาก 

                     

ประเทศไทยในอนาคต หากมีผู้นำที่ไม่มีประสบการณ์ อาจจะ เป็นการชักน้ำเข้าลึกศึกเข้าบ้าน หรือ เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงความปลอดภัยของชาติบ้านเมืองเสียเอง ดังนั้นก่อนที่ทุกท่านจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จึงต้องคิดพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อครอบครัวของท่านเอง โดยเฉพาะ ลูก หลาน เหลน ที่อาจจะต้องรับกรรมจากการตัดสินใจที่ผิด ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราท่าน ต้องมีซากปรักหักพัง ย่อยยับ เพราะนักการเมืองไทยที่เลือกเข้ามาเองก็ได้ การเลือกคนดี มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามรถ ซื่อสัตย์สุจริต ในการบริหารกิจการบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุดอยู่แล้ว