(18 เม.ย.66) น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัครส.ส กทม. เขต 24 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวโจมตีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษว่า ที่ไม่ได้หาตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ ตนเห็นข่าวนี้แล้วก็แทบไม่เชื่อ หูตัวเอง ว่าคนพูดจะเป็นถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย 

เพราะเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่สาระสำคัญของการที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ เพราะนายเศรษฐา ที่เป็นนักธุรกิจบริหารองค์กรใหญ่โต ย่อมจะต้องทราบดีว่า ผู้นำประเทศต่างๆ ที่มีภาษาเป็นของตนเอง เวลาไปเจรจากับประเทศอื่นๆ ก็จะใช้ภาษาของตนเอง ซึ่งแสดงถึงความภูมิใจในเอกลักษณ์ของชนชาติตนเอง โดยจะมีล่ามทำหน้าที่สื่อความหมาย กับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ไม่ได้เป็นปัญหาในการเจรจา การค้าหรือการสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, รัสเซีย หรือประเทศในตะวันออกกลาง ผู้นำเขาก็ใช้ภาษาของตนเองทั้งสิ้นเวลาไปเจรจา กับมิตรประเทศต่างๆ

การที่นายเศรษฐาหยิบยกประเด็นเรื่องความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษของพลเอกประยุทธ์ มาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถ ไปเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ ได้ ซึ่งการเชื่อมโยงเรื่องภาษากับเรื่องการเปิดตลาดการค้า ก็ไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลต่อกันแต่อย่างใด เพราะจากความเป็นจริงที่ปรากฏ ก็จะพบว่าในยุคของพลเอกประยุทธ์นั้น เดินทางไปเจริญสัมพันธ์ทำไมตรีและเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ มากมาย

ซึ่งจริงๆ นายเศรษฐาหรือทีมงานของพรรคเพื่อไทย ถ้าค้นข้อมูลดีๆ ก็คงจะพบรายละเอียดว่า พลเอกประยุทธ์ ได้ไปเปิดตลาดกันค้าใหม่ๆ ที่ไหนบ้าง ตนจะไม่ขอกล่าวในที่นี้ ซึ่งตนก็มั่นใจว่าคุณเศรษฐาก็รู้ข้อมูลเหล่านี้ดี เพียงแต่ที่หยิบยกประเด็นนี้มา โจมตี ก็อาจจะเป็นเพราะ ‘หมดมุก’ ในการที่จะหยุดยั้งกระแสความนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประชาชนจำนวนมากเริ่มเข้าใจ และได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องว่า พลเอกประยุทธ์ได้สร้างผลงานและประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติไว้บ้างในช่วงที่ผ่านมา และอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้สานต่องานที่ทำเอาไว้

ขณะเดียวกัน ทั้งนายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ก็กำลังเหน็ดเหนื่อยกับการถูกตั้งคำถาม เกี่ยวกับความเหมาะสมของนโยบายการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท เป็นการแจกแบบ ‘หว่าน’ ซึ่งยิ่งอธิบาย ก็ยิ่งเกิดคำถาม ในฐานะที่เป็นนักการเมืองด้วยกัน จึงอยากจะแนะนำให้นายเศรษฐา ตั้งหลักให้ดี เลิกใช้วิธีการ แบบนี้ได้แล้ว เพราะจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของนายเศรษฐาเอง ดูแย่ลงไปเรื่อยๆ

เพราะถ้าจะด้อยค่าการด้วยเรื่องภาษาอังกฤษ อดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยคือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เคยไปทำขายหน้า ในที่ประชุมที่ต่างประเทศมาแล้วด้วยการ กล่าวว่า thank you three Times จนเป็นที่ขบขันไปทั่วโลก

หรือแม้แต่ แคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยอีกคนนึงคือนางสาวแพทองธารชินวัตร ที่ให้สัมภาษณ์ออกสื่อด้วยภาษาอังกฤษบนภาษาไทย ก็สร้างความงุนงงให้กับคนที่ติดตามข่าวด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น my dad will โกง