ถอดรหัส 'การเมือง' สไตล์ ์ Anthony Eden ไม่ใช่แกงถุงสำเร็จรูป ที่แกะหนังยางแล้วทานได้เลย

การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการเสนอนักการเมืองหน้าใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่มากมายหลายคน แต่ความเป็นจริงแล้ว การทำงานทางการเมืองอย่างมีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องสั่งสมทักษะและประสบการณ์มากมายหลายเรื่อง รวมทั้งคุณงามความดี (ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด) นโยบายประชานิยม ขายฝัน ใครก็พูดได้ เขียนได้ แต่จะทำได้หรือไม่ โดยไม่ทำให้ชาติบ้านเมืองมีปัญหา นั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด

วันนี้จึงขอนำเอาเรื่องราวของเซอร์ Anthony Eden (12 มิถุนาน ค.ศ. 1897 - 14  มกราคม ค.ศ. 1977) หนึ่งในนายกรัฐมนตรีผู้มากความสามารถและประสบการณ์ในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร ด้วยมีนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนที่มีประสบการณ์เทียบเท่ากับเซอร์ Anthony Eden นายกรัฐมนตรีผู้นี้ได้เลย มาบอกเล่าให้ผู้อ่านได้พิจารณาประกอบในการเลือกพรรคและคนที่ดีที่ใช่ เพื่อให้บ้านเราอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราก้าวต่อไปได้

ก่อนที่จะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี Eden เป็นทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยอายุยังน้อยในปี ค.ศ. 1915 โดยเริ่มเป็นนายทหารยศร้อยตรีเมื่ออายุเพียง 17 ปี เมื่อสงครามสงบลงในปี ค.ศ. 1919 เขาอายุเพียง 23 ปี มียศเป็นร้อยเอกและได้รับเหรียญกล้าหาญ Military Cross

เขาเป็น ส.ส. นานถึง 32 ปี และเป็นรัฐมนตรีอีก 14 ปี ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรคนใดที่มีประสบการณ์มากกว่าเขา เว้นแต่เพียง เซอร์ Winston Churchill นายกรัฐมนตรีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้นที่มีประสบการณ์มากกว่าเขา

Eden ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นเวลา 12 ปีในช่วงเวลาที่สำคัญ ได้แก่ :
ค.ศ. 1935 - ค.ศ. 1938 ภายใต้นายกรัฐมนตรี Neville Chamberlain ค.ศ. 1940 - ค.ศ. 1945 ในรัฐบาลผสมของเซอร์ Churchill ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ. 1951 - ค.ศ. 1955 ภายใต้นายกรัฐมนตรี เซอร์ Churchill อีกครั้งหนึ่ง

ก่อนที่เขาจะได้สืบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากเซอร์ Churchill ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1955 และชนะการเลือกตั้งทั่วไปในอีกหนึ่งเดือนถัดมา งานเมืองของเขาก่อนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นยาวนานและประสบความสำเร็จมากมาย

Eden มีกิตติศัพท์ในระดับโลกจากการดำเนินนโยบายจำยอมสละ เขาพยายามหลีกเลี่ยงสงครามโดยการโอนอ่อนผ่อนปรนให้แก่ชาติก้าวร้าวอย่างเยอรมนี ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น 'บุรุษแห่งสันติภาพ' ซึ่งสามารถชะลอการเกิดมหาสงครามสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

เขาเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากการรับราชการในช่วงสงครามที่ยาวนานและรูปลักษณ์และเสน่ห์ที่โด่งดังของเขา

คำพูดที่โด่งดังของเขาอย่าง "สันติภาพมาก่อนเสมอ" เพิ่มความนิยมให้เขาอย่างมาก เมื่อเข้ารับตำแหน่ง เขาได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 ในทันที ซึ่งเขาได้เพิ่มเสียงข้างมากของพรรคอนุรักษ์นิยมจากสิบเจ็ดเป็นหกสิบเสียง ซึ่งเป็นการเพิ่มเสียงข้างมากที่ทำลายสถิติเก้าสิบปีของรัฐบาลอังกฤษ และการเลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 1955 เป็นครั้งสุดท้ายที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสกอตแลนด์

อย่างไรก็ตาม Eden ไม่เคยมีประสบการณ์กับกิจการในประเทศ และมีประสบการณ์ในเรื่องเศรษฐกิจไม่มากนัก เขาจึงปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรของเขามีตัวเลขการว่างงานต่ำที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวเลขการว่างงานคิดเป็นไม่ถึง 1% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1955

แม้จะมีประสบการณ์มากมาย อย่างไรก็ตามความสามารถด้านการต่างประเทศของเขาก็เสื่อมถอยลงเมื่อเมื่อพันธมิตรที่สหราชอาณาจักรไว้ใจและเชื่อใจอย่างที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธให้ความสนับสนุนอังกฤษและฝรั่งเศสในวิกฤตการณ์สุเอซ ปี ค.ศ. 1956 กลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สมาชิกรัฐสภาถึงความเสื่อมถอยด้านนโยบายต่างประเทศของสหราชอาณาจักร และเป็นการส่งสัญญาณว่า อิทธิพลของอังกฤษที่กำลังจะสิ้นสุดลงในดินแดนตะวันออกกลาง ทำให้เซอร์ Anthony Eden ผู้เป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีผู้มากความสามารถและประสบการณ์ในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 10 มกราคม ค.ศ. 1957  

“ตลอดชีวิตของผม ผมเป็นมนุษย์แห่งสันติภาพ ทำงานเพื่อสันติภาพ มุ่งมั่นเพื่อสันติภาพ เจรจาเพื่อสันติภาพ ผมเคยเป็นทั้งคนของสันนิบาตชาติและสหประชาชาติ และผมก็ยังเป็นคน ๆ เดิมที่มีความเชื่อมั่นเช่นเดิม อุทิศตนเพื่อสันติภาพเช่นเดิม ผมไม่สามารถเป็นอื่นได้ แม้ว่าผมจะต้องการแต่ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า การกระทำของเรานั้นถูกต้อง” Anthony Eden