'จัสติน ซุน' ศิษย์ 'แจ็ก หม่า' ผู้มั่นใจในอนาคตเงินคริปโต ถูก ก.ล.ต สหรัฐฯ แจ้งจับคดีฉ้อโกงปั่นเหรียญ Tron
'จัสติน ซุน' หรือ 'ซุน หยู่เฉิน' เป็นหนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ศรัทธาในมูลค่าของทรัพย์สินดิจิทัล และสามารถบริหารแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตของตัวเองที่ชื่อ Bittorent Inc. ได้ในวัยยังไม่ถึง 30 ปี และยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเงินคริปโตที่ชื่อว่า Tron (TRX) ในปี 2018 ทำให้เขายืนอยู่ในจุดที่นักธุรกิจ รุ่นใหม่อยากจะไปให้ถึง
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ จัสติน ซุน ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า เขามี แจ็ก หม่า เป็นไอดอล และพี่เลี้ยงในการสร้างธุรกิจจากศูนย์สู่หมื่นล้าน โดยแต่แรกเริ่ม จัสติน ซุน เองไม่ได้มีพื้นฐานในด้านธุรกิจ หรือ เทคโนโลยีใด ๆ มาก่อน เขาจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ในสาขาประวัติศาสตร์ และ ไปต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ในด้านเอเชียศึกษา ซึ่งเขาเริ่มรู้จัก และสนใจในการทำธุรกิจคริปโตระหว่างที่ศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกานี่เอง
พอจบกลับมา เขาตัดสินใจไปเข้าคอร์สด้านการทำธุรกิจที่สถาบันศึกษาศาสตร์แห่งการเป็นผู้ประกอบการ ของแจ็คหม่า ที่มณฑลเจ้อเจียง และเรียนรู้ที่จะลงทุนในธุรกิจเงินดิจิทัลที่นั่น
แม้ จัสติน ซุน จะชื่นชมในตัวแจ็ก หม่า อย่างมากและเขาเรียนรู้วิธีสร้างอาณาจักรธุรกิจจากสถาบันอบรมของแจ็ก หม่า หลายอย่าง ทั้งการสร้างมูลค่าให้กับองค์กร ที่ส่งผลให้หุ้นมีราคาจนสามารถขยายบริษัทจากหนึ่ง เป็นเครือข่ายที่มีพนักงานหลายพันได้ในเวลาไม่นาน อาทิ โมเดลการสร้าง Alibaba ของเขา แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เขา และ แจ็ก หม่า มีมุมมองต่างกัน
โดยคนรุ่น แจ็ก หม่า เคยเชื่อว่าธุรกิจที่มีโอกาสทำเงินได้มหาศาลคือ กลุ่ม E-Commerce, ด้านการเงิน และ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมุมมองของนักธุรกิจรุ่นเก่า ที่ตอนนี้มันอิ่มตัวไปแล้ว
ส่วนในความคิดของจัสติน ซุน เขาเชื่อว่าเงินสกุลคริปโต และ เทคโนโลยี AI จะขับเคลื่อนโลกทั้งใบ และโอกาสในการสร้างธุรกิจของคนรุ่นใหม่ๆ อย่างพวกเขาจะอยู่ที่นั่น ยิ่งเมื่อได้เห็นนโยบายของรัฐบาลจีนที่เข้ามาควบคุมบริษัท Fin Tech เพราะหวั่นเกรงที่จะสูญเสียอำนาจในการควบคุมระบบการเงินของภาครัฐ อีกทั้ง บริษัท Ant Group ของ แจ็ก หม่า ถูกระงับการเข้าตลาดหลักทรัพย์จีนด้วยแล้ว จัสติน ซุน จึงตัดสินใจย้ายประเทศ ทิ้งสัญชาติจีนไปถือพาสปอร์ตเกรนาดา แล้วไปตั้งบริษัทพัฒนาเหรียญคริปโตของตัวเองในสิงคโปร์ ด้วยความเชื่อมั่นในการเติบโตของกระแสเงินคริปโต และการถือพาสปอร์ตต่างชาติช่วยเรื่องการเดินทางที่คล่องตัวกว่าในฐานะพลเมืองโลก
แต่ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมายื่นฟ้อง จัสติน ซุน และคนดังอีก 8 คน ที่รวมถึง ลินซีย์ โลฮาน ดาราสาวฮอลลีวู้ดชื่อดังด้วย ในข้อหาปั่นราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีมูลค่าอยู่จริง ฉ้อโกง หลอกซื้อขายเงินคริปโตบนแพลตฟอร์มของเขา
ซึ่งต่อมา ตัวแทนของ จัสติน ซัน ได้ออกมาตอบโต้ผ่านทวิตเตอร์ว่า ข้อกล่าวหาของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไม่เป็นธรรม และระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับธุรกิจคริปโตของสหรฐก็ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ แต่ทางด้านรัฐบาลเกรนาดา ที่จัสติน ซัน ถือพาสปอร์ตพลเมืองอยู่ได้ประกาศถอดเขาออกจากการเป็นทูตด้านการค้าโลกของประเทศแล้ว เนื่องจากข้อกล่าวหาของทางการสหรัฐฯ
จนถึงวันนี้ จัสติน ซุน ยังยืนยันในสิ่งที่เขาเชื่อมั่น และพร้อมฝากอนาคตของเขากับธุรกิจดิจิทัล แต่ในโลกความเป็นจริง การทำธุรกิจที่ยั่งยืนยังคงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของมูลค่าจริง และความซื่อสัตย์ ที่เป็นหลักของผู้ประกอบการไม่ว่าเขาจะเป็นคนยุคไหน หรือ รุ่นใดก็ตาม
เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: Aljazeera / U.S. Securities and Exchange / Commission / Coindesk