‘พิธา-อมรัตน์-สุทธวรรณ’ บุกนครปฐม หนุน การเกษตร ด้าน ‘ศิริกัญญา-ไอติม’ ลุยสุพรรณฯ รับฟังปัญหา SME

(18 มี.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา และนายกิตติภณ ปานพรหมมาศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐมเขต 4 ลงพื้นที่หาเสียง ที่ตลาดชุมชนบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม รวมทั้งได้พูดคุยกับกลุ่มเกษตรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

โดยนายพิธาเริ่มต้นการหาเสียงด้วยการกล่าวว่า ขอบคุณชาวนครปฐมที่ให้ความไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่ถึง 165,201 คะแนน เป็นแชมป์อันดับ 1 ของจังหวัดนครปฐม ได้ ส.ส. 2 จาก 5 ที่นั่ง และเดินไปในตลาดแห่งนี้ก็เชื่อว่าใน 3 คน ต้องมี 1 คนที่เคยเลือกพรรคอนาคตใหม่ คราวนี้จึงอยากขอความไว้วางใจอีกรอบ หากต้องหารเห็นวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ อยากเห็นประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ต้องกาก้าวไกลทั้ง 2 ใบ คราวนี้เราจำเป็นต้องได้ ส.ส. ให้มากที่สุด เพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศ

ในส่วนศักยภาพของจังหวัดนครปฐม นายพิธากล่าวว่า ชาวนครปฐมมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กว่า 12,460 ฟาร์ม ผลิตกุ้งคุณภาพไปกว่าปีละ 7,700 ตัน และมีสัดส่วนฟาร์มกุ้งก้ามกรามที่ได้การรับรองคุณภาพ GAP กว่า 38% มากที่สุดในประเทศไทย แต่ยังมีปัญหาต้นทุนการเลี้ยงสูงและอัตราการมีชีวิตรอดของลูกกุ้งต่ำ เพราะขาดแคนลูกพันธุ์คุณภาพ

“ที่น่าตกใจ คือ ถึงแม้นครปฐมจะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แต่งบประมาณที่กรมประมงสนับสนุนในปีที่ผ่านมา คือ 0 บาท เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคก้าวไกล เพราะเรามีนโยบายรับรองมาตรฐาน GAP-GMP-เกษตรอินทรีย์ ฟรี!! พร้อมทั้งส่งเสริมการส่งสินค้าเกษตรคุณภาพดีไปทั่วโลก ผ่านการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมให้ผู้ประกอบการที่ขอใบรับรองของสินค้าแปรรูที่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรแปรรูปไทยสู่มาตรฐานสากล” นายพิธา กล่าว

ส่วนนายกิตติภณ ปานพรหมมาศ ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐมเขต 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาของชาวนครปฐม นอกจากด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ต้องมีพัฒนาแล้ว ปัญหาอาชญากรรมและสิ่งแวดล้อม ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบกับคนในพื้นที่ ตนเชื่อว่า นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า นโยบายสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้คุณภาพชีวิตคนนครปฐมและชีวิตคนไทยทั้งประเทศดีขึ้นแน่นอน

ในช่วงเวลาเดียวกัน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย เดินสายหาเสียงพบพี่น้องประชาชนอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรับฟังปัญหาผู้ประกอบการรายย่อย (SME) และร่วมแลกเปลี่ยนเปลี่ยนปัญหาเชิงพื้นที่ของตลาดเก่าศรีประจันต์ ซึ่งในอดีตเป็นตลาดที่คึกคักและเป็นจุดเชื่อมต่อทางคมนาคมที่สำคัญในการเดินทางไปยังกรุงเทพ ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนทำให้พื้นที่ตลาดถูกลดความสำคัญและเริ่มซบเซาลง

ปัจจุบันมีความพยายามพลิกฟื้นตลาดเก่าศรีประจันต์ จากกลุ่มผู้ประกอบการและศิลปินในพื้นที่ พยายามปรับปรุงพื้นที่บางส่วน พร้อมจัดแสดงผลงานศิลปะเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ขณะที่วิเชียร ตามสี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุพรรณบุรี เขต 5 กล่าวว่า “ตลาดศรีประจันต์เป็นย่านเก่าแก่ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตคนสุพรรณ ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่พยายามจะคืนชีพตลาดนี้ ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสสร้างพื้นที่ตรงนี้ให้ดีกว่านี้ได้ เพราะตลาดมีจุดเด่นของตัวเองและสามารถเชื่อมโยงไปยังบึงฉวาก การมาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคครั้งนี้เตรียมที่จะผลักดันต่อไป”

ด้านรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอกับพี่น้องประชาชนศรีประจันต์ระหว่างพูดคุยว่า ต้องตีโจทย์ตลาดเก่าศรีประจันต์ เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาและออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมต่อไป และถ้าหากมีการออกแบบหรือคิดไม่รอบด้าน สุดท้ายตลาดเก่าหรือบ้านเก่า จะถูกอนุรักษ์แบบแข็งตึงและไม่มีการพัฒนา และไม่สามารถทำสิ่งใดได้

ด้านนายพริษฐ์ ให้ความเห็นแก่ผู้สื่อข่าวว่า จากการรับฟังปัญหาของตลาดเก่าศรีประจันต์ สะท้อนภาพความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งประเทศ ซึ่งพรรคก้าวไกล ได้เตรียมนโยบายอย่าง ‘หวยใบเสร็จ’ สำหรับประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าใบเสร็จละ 500 บาท สามารถลุ้นรับหวย 1 ใบเพื่อชิงโชค โดยพรรคก้าวไกลตั้งใจให้นโยบายดังกล่าวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก พร้อมทั้งผลักดันการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้คนที่อยู่ใกล้ชิดกับปัญหาสามารถบริหารจัดการของท้องถิ่นได้ตรงจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นนี้ 17.00 น. เป็นต้นไป แกนนำพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง, นางอมรัตน์ โชคปมิตตกุล, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.ก้าวไกล และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยการเมืองและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 5 จังหวัด 25 เขต ราชบุรี, เพชรบุรี, กาญจนบุรี, นครปฐม และสุพรรณบุรี ในหัวข้อ ‘ปักธงส้มทั่วไทย ต้องก้าวไกล ตรงไปตรงมา!!’ ที่ศาลา 60 พรรษา ริมน้ำ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี