‘ชลน่าน’ ไม่กังวล ‘เสี่ยหนู’ กินข้าวกระชับมิตร ‘บิ๊กป้อม’ ย้ำชัด เป้าหมาย พท.คือจัดตั้ง รบ. ลั่น!! ไม่จับมือสองพรรคนี้

(16 มี.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรค ภท. เข้าพบและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จะเป็นการคุยกัน เพื่อจับมือจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ว่า ก็ชวนให้คิดได้ เนื่องจากเขาเคยทำงานร่วมกันมา เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ก็อาจจะมีการร่วมมือกันเพื่อร่วมรัฐบาลเดียวกันหลังเลือกตั้ง เพราะเขาเองก็คงประเมินสถานการณ์มาอยู่แล้ว ว่าเขาน่าจะได้รับคะแนนเสียงมาเท่าไหร่ หากจะมีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันเขาจะต้องทำอย่างไร

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่อาจจะมีการคิดจับมือกันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่กังวล ยิ่งเขาประกาศตัวชัดเจนเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีในการที่จะตัดสินใจของพี่น้องประชาชน หากสองพรรคนี้เขาประกาศว่าหลังเลือกตั้งจะมาจับมือกัน ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่นั้น เขาก็จะไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ได้เสียงไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และพรรค พปชร.จับมือกับพรรค ภท. พรรค พท.จะจับมือกับสองพรรคนี้ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ถึงเป้าหมายให้ได้ คือ 310 เสียง การที่เราตั้งเป้าหมายเช่นนั้น เพราะเราไม่ต้องการจับมือกับพรรคที่เป็นแนวร่วมในการยึดอำนาจ พรรคที่สนับสนุนเผด็จการมา เราต้องอาศัยเสียงประชาชนช่วย ฉะนั้น เราจึงต้องทำตรงนั้นให้ถึง

เมื่อถามว่า หากเสียงของพรรค พท.ไม่ถึงเป้าจริง ๆ ทั้งพรรค พปชร.และพรรค ภท.จะอยู่ในสมการการตั้งรัฐบาลชุดหน้าของพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าเราไม่อยากเห็นบ้านเมืองกลับไปสู่สภาพที่ย่ำแย่ มันจะไม่หลุดพ้นออกจากวิกฤต ถ้าเอาสมการเดิม ๆ พรรคการเมืองเดิม ๆ มาทำ มาคิดแบบเดิม ๆ โอกาสของประเทศก็จะกลับไปเป็นแบบเดิม ๆ พรรค พท.จึงบอกว่าเราต้องคิดใหญ่ และการคิดใหญ่ต้องชวนประชาชนมาร่วมคิดด้วย ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกแบบมียุทธศาสตร์ หากไม่อยากกลับไปเป็นแบบเดิม ๆ ก็ต้องมาช่วยกันหาทางออกของประเทศร่วมกัน

เมื่อถามว่า พูดได้เลยหรือไม่ ว่าจะไม่จับมือกับพรรค พปชร.และพรรค ภท. นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มันเป็นมิติทางการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกัน การจะไปประกาศว่าจะจับมือกับสองพรรคนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจ และพี่น้องประชาชนเขาคงไม่ยอม

เมื่อถามถึงการจับมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป้าหมายของเรา คือ ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งการจะจัดตั้งรัฐบาลได้ต้องใช้เสียง 376 เสียง และการที่เราจะไปพึ่ง ส.ว.โอกาสเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่เขามีจิตสำนึกว่าเราได้เสียงข้างมากมา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เลือนลาง สิ่งที่เป็นไปได้ที่สุด คือจะทำอย่างไรเมื่อเราได้ 310 เสียงแล้ว เราจะหาแนวร่วมจากเฉพาะ ส.ส.มาโหวตเลือกนายกฯ ไม่ต้องไปอาศัยเสียงของ ส.ว. ฉะนั้น การที่เราจะจับมือกับพรรคแนวร่วมเดียวกันจึงเป็นไปได้สูง

“แนวทางที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกัน อุดมการณ์ก็น่าจะไปด้วยกันได้ดีกว่า หากเราได้ 310 เสียง เราก็จะเชิญพรรคที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเรามาร่วมโหวตนายกฯ แต่เขาจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็เป็นเงื่อนไขของเขา หากเขาบอกว่า ไม่ร่วมรัฐบาลกับเรา แต่จะโหวตนายกฯ ให้ ก็เป็นเงื่อนไขต่อไป และหากเขาบอกว่า จะขอร่วมรัฐบาลก็เป็นเงื่อนไขที่ต้องมาคุยกัน” นพ.ชลน่าน กล่าว