‘ฟีฟ่า’ ไฟเขียว ปรับรูปแบบการเตะ ‘เวิลด์ คัพ 2026’ ตารางแข่งแน่น 39 วัน - 48 ทีม - 104 แมตช์

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เตรียมปฏิรูปการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งใหญ่ โดยจะเป็นรูปเเบบที่ใหญ่ที่สุดเเละแข่งกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ซึ่งจะเริ่มใช้ทันทีในเวิลด์ คัพ 2026 ที่ 3 ชาติ โซนอเมริกาเหนือ ทั้ง สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

ตามการรายงานล่าสุดเปิดเผยว่า ‘ฟีฟ่า’ ไฟเขียวให้ศึกฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งจะจัดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ ด้วยความร่วมมือกันของ 3 ชาติ อย่าง สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก จะเพิ่มทีมเข้าเเข่งขันจากเดิม 32 ทีมเป็น 48 ทีม นั้นทำให้การเเข่งขันจะเพิ่มจากเดิม 64 เเมตช์ไปเป็น 104 เเมตช์ตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยแข่งกันแบบมาราธอนถึง 39 วัน จากเดิมที่เเข่งแค่ 28 วัน (ครั้งล่าสุดที่กาตาร์ ปี 2022)

ขณะเดียวกันรูปแบบที่ จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าเคาะออกมา จะมีการเปลี่ยนเเปลงเล็กน้อยคือจากเดิมที่วางวิธีเเบ่งกลุ่มจาก 16 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม เป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เพราะมองว่าถ้าเป็นแบบแรก เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มจะลดความตื่นเต้นไปเยอะเนื่องจากบางทีมเข้ารอบไปแล้วและอาจเล่นไม่เต็มที่

สำหรับการชิงชัยในรอบแบ่งกลุ่มจะเอาแชมป์ และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม (24 ทีม) ผ่านเข้ารอบต่อไปบวกกับอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 8 ทีม รวมเป็น 32 ทีมในรอบน็อกเอาต์ แข่งขันแบบนัดเดียวหาผู้ชนะ มีทั้งการต่อเวลาพิเศษ และยิงจุดโทษ

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฟุตบอลโลก 2026 จะมีทั้งข้อดี เเละข้อเสีย โดยข้อเสียคือนักเตะจะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จะต้องเล่นรวมจนถึงรอบนั้น 8 เกมจากที่เดิมเล่นแค่ 7 เกม ส่วนข้อดีคือ ‘ฟีฟ่า’ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าลิขสิทธิ์คาดว่าจะสูงถึง 9,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3.7 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ จานนี อินฟานติโน่ ปธ.ฟีฟ่า พยายามหาทางปรับเปลี่ยนรูปแบบของฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก และเพิ่มจำนวนทีมมานับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ต่อจาก เซปป์ แบลตเตอร์ ในปี 2016​ ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตามฟุตบอลโลก 2026 ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แต่ตอนนี้แทบจะชัดเจนแล้วว่าทุกทวีปจะได้โควตาจำนวนทีมไปเล่นรอบสุดท้ายมากขึ้น ซึ่งทวีปเอเชียเรามีโอกาสจะได้โควตาเพิ่มจาก 4+1 (4 ทีมเข้ารอบกับ 1 ทีมไปเพลย์ออฟ) เป็น 8+1 ทีม (8 ทีมเข้ารอบกับ 1 ทีมไปเพลย์ออฟ) ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้


ที่มา: https://www.thaipost.net/sport-news/341889/