'สมศักดิ์ เทพสุทิน' รมต.ยุติธรรม สายนักสร้าง สร้างมาตรฐานนักโทษในเรือนจำ และสร้างโอกาสใหม่ในชีวิต

หากมองลงไปในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนึ่งในรัฐมนตรีที่นับว่ามีพรรษาทางการเมืองสูงสุด ก็คือ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' 

จากท้องถิ่น ถึงการเมืองชาติ ผู้นำ 'บ้านใหญ่' พื้นที่ จ.สุโขทัย ในวัย 68 ปี ผ่านประสบการณ์การบริหารบ้านเมืองมานับไม่ถ้วน ทั้งในบทบาทรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง จนกระทั่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากระทรวงยุติธรรม และเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค

“42 ปีทางการเมือง ผมยังมีไฟแก้ปัญหา อาจทำได้ไม่ทั้งหมด แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด”

คือประโยคทิ้งท้ายในงานฉลองวันเกิด 13 มกราคม ปีที่แล้วของนักการเมืองรุ่นใหญ่ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมือง ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในสนามการเมืองท้องถิ่นปี 2523 สู่บทบาททางการเมืองในระดับชาติ และยังคงมีจังหวะก้าวอยู่ในเส้นทางการเมืองจนถึงวันนี้ 

และหากมองเข้าไปถึง หลักคิด วิธีการ และเป้าหมายในการตัดสินใจทางการเมืองของนักการเมืองที่ชื่อ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ ว่า เขาให้ความสำคัญกับ ‘ดิน ฟ้า อากาศ’

'ดิน' คือ ประชาชน รากหญ้า ความต้องการของประชาชนคือสิ่งสำคัญ 'ฟ้า' คือต้องดูพรรคการเมืองที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ 'อากาศ' คือประเมินข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ 

ดิน ฟ้า และอากาศ จึงเป็นสามปัจจัยสำคัญที่เจ้าตัวให้ความสำคัญ และเป็นหลักยึดในการตัดสินใจกับพรรคพลังประชารัฐในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

เบื้องหลังการขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้ง จนนำไปสู่การเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังเลือกตั้ง 2562 ส่วนหนึ่งมาจากพลังการขับเคลื่อนของกลุ่ม ส.ส. และนักการเมืองในนาม 'กลุ่มสามมิตร' 

'สามมิตร' เป็นกลุ่มการเมืองเฉพาะกิจ มีสามแกนหลักคือ 3 รัฐมนตรีในครม.ชุดปัจจุบัน คือ 'สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' รมต.อุตสาหกรรม 'อนุชา นาคาศัย' รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.ยุติธรรม

หนึ่งแนวคิด และแนวทางสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ชื่อ 'สมศักดิ์  เทพสุทิน' คือความพยายามทำให้ 'คนติดคุกน้อยลง' ด้วยการ 'คืนคนดีสู่สังคม' สร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้ที่พ้นโทษมีรายได้

ยกตัวอย่างโครงการที่กรมคุมประพฤติใช้กำไลอีเอ็มเพื่อเฝ้าระวังพฤติกรรมของผู้กระทำผิดในคดีสะเทือนขวัญหรือคดีทางเพศ 206 ราย ซึ่งพบว่าร้อยละ 90 มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น 

ขณะที่กรมราชทัณฑ์ ก็ผุดโครงการฝึกอาชีพและจ้างงานผู้ต้องขังให้มีเงินทุนออกไปประกอบอาชีพหลังได้รับอิสรภาพ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกลับมากระทำผิดซ้ำ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครงการความร่วมมือของกระทรวงยุติธรรม กับ กทม.จ้างงานผู้ต้องขัง 2,139 คนช่วยลอกท่อระบายน้ำ  

กระทรวงยุติธรรม ในยุครัฐมนตรีสมศักดิ์ ยังเดินหน้าช่วย 'แก้ปัญหาหนี้' ให้ประชาขน ผ่านมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน 7 ครั้ง ทั่วประเทศ ช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ถึง 9.2 หมื่นราย และสามารถนำยอดหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ถึง 22 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายได้ถึง 6.9 พันล้านบาท

เส้นทางของนักการเมือง ย่อมเป็นไปตามวิถีทางทางการเมือง สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ยังไม่มีใครตอบได้ว่า 'กลุ่มสามมิตร' ในที่สุดจะเดินทางต่อไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ ๆ คือรอยทางที่กลุ่มสามมิตรทิ้งไว้ ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าที่ถูกเขียนไว้ในการเมืองไทย โดยมี 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' เป็นส่วนสำคัญยิ่ง