‘ชาติพัฒนากล้า’ ชู นโยบาย ‘ลดค่าการกลั่น หั่นค่า FT’ พร้อมทุบโครงสร้างราคา ‘น้ำมัน - ไฟฟ้า’ ต้องถูกกว่านี้

(28 ก.พ.66) ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมเวทีเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ในหัวข้อ ‘พรรคการเมืองตอบประชาชน อนาคตพลังงานไทย’ โดยย้ำถึงหลักการเสรีนิยมประชาธิปไตย ต้องทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส รื้อโครงสร้างที่ผูกขาด ให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งเรื่องพลังงานเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โคตรผูกขาด

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า น้ำมันและค่าไฟฟ้าแพง เพราะถูกยัดเยียดต้นทุนจากราคาสมมุติ ประชาชนต้องจ่ายแพงเกินจริง ส่วนกำไรมหาศาลตกอยู่กับกลุ่มทุนผูกขาด อย่างเรื่องน้ำมัน แข่งขันแค่เฉพาะแถมน้ำหรือไม่แถมน้ำ แต่ไม่เคยแข่งกันด้วยราคา เพราะกำหนดราคาต้นทุนสมมุติร่วมกัน ความน่าเกลียดที่สุดคือ รัฐบาลที่ยอมจำนนต่อระบบนี้ 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ปีที่แล้วสงครามรัสเซีย-ยูเครน ค่าการกลั่นสมมุติที่คิดจากส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูป มีส่วนต่างห่างกันมาก ค่าการกลั่นสูงผิดปกติ โรงกลั่นก็กำไรมหาศาลทั่วโลก หลายประเทศใช้วิธีเก็บภาษีลาภลอยกับบริษัทกลั่นน้ำมัน เพื่อไปชดเชยค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ที่มันแพงขึ้น แต่รัฐบาลไทยกลับนิ่งเฉย รัฐมนตรีคนปัจจุบัน เคยบอกว่า จะรับบริจาคจากโรงกลั่นน้ำมัน ทั้งที่สามารถทำได้ชัดเจนกว่าด้วยการใช้มติ ครม.ออกพระราชกำหนด เก็บภาษีลาภลอยจากโรงกลั่นที่เป็นบริษัทมหาชน รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นคณะกรรมการการควบคุมราคาสินค้า และยังเป็นคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วย

“ผมและนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เคยเตือนและนำเสนอแนวทางการแก้ไขลดค่าการกลั่น เก็บภาษีลาภลอยไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งเป็นแนวทางที่ต่างประเทศก็ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ เราเสนอวิธีการแก้ไขตั้งแต่กองทุนน้ำมันยังติดลบไม่ถึงแสนล้าน แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการ จนถึงวันนี้กระทรวงการคลังต้องไปค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน เป็นหนี้แสนล้าน ประชาชนต้องช่วยผ่อนทุกครั้งที่เติมน้ำมันยาว 7 ปี” ดร.อรรถวิชช์ กล่าว

รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ยังกล่าวถึงราคาไฟฟ้า ใช้ก็ราคาต้นทุนสมมุติเช่นกัน ที่เรียกว่าค่า FT ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ประกอบด้วย 1.) ราคาก๊าซธรรมชาติ 2.) ค่าเงินบาท และ 3.) การซื้อไฟฟ้าสำรอง

โดยปีที่แล้วโลกเผชิญกับความผันผวนหนัก จากผลกระทบสถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซีย ช่วงที่พีคมาก ๆ เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ราคาก๊าซธรรมชาติ Spot LNG ที่ใช้ผลิตไฟฟ้า อยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ราคาไฟฟ้าภาคครัวเรือนยูนิตละ 4.00 บาท แต่ตอนนี้ราคา Spot LNG ลดลงมาอยู่ที่ 19 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียูแล้ว ค่าเงินก็แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แต่ค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนกลับอยู่ที่หน่วยละ 4.72 บาท อันนี้เห็นชัดได้เลยว่า ต้นทุนถูกแล้ว แต่ไม่ลดให้ อ้างว่าจะทบทวนใหม่ ต้องรอถึง 4 เดือน พรรคชาติพัฒนากล้า จึงประกาศเสนอให้ลดเวลาทบทวนค่า FT ทุก 2 เดือน เพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นทุนที่แท้จริงมากที่สุด

ดร.อรรถวิชช์ ยังเสนอว่า เรื่องที่ต้องสนับสนุนอย่างเร่งด่วน คือ การขยาย ทำให้โซลาร์รูฟท็อป ประชาชน ชุมชน ต้องขายไฟฟ้าได้ เกิดการแข่งขัน ค่าไฟฟ้าก็จะถูกลง การซื้อไฟฟ้าสำรองก็จะน้อยลง ต้นทุนค่า FT ก็จะถูกลงมาด้วย เพราะปัจจุบันที่ราคาไฟฟ้าแพง เพราะมีการซื้อไฟสำรองจากเอกชนถึง 40-50% ซึ่งเยอะเกินไป แต่ถ้าเปิดให้ประชาชนสามารถขายไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปกลับเข้ามาได้ ก็จะสามารถลดสัดส่วนการซื้อไฟสำรอง ต้นทุนถูกลง ไม่ใช่เปิดโอกาสให้เอกชนมีเส้นขายไฟฟ้าฝ่ายเดียว