'ชัยวุฒิ' ชี้ช่องดึง 'เว็บพนันออนไลน์-บุหรี่ไฟฟ้า' ขึ้นมาบนดิน แก้กฎหมาย เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี พารัฐกระเป๋าตุง

จากคอลัมน์ 'เจ้าพระยา' ในสยามรัฐ ได้พูดถึงกรณีทุนสีเทาที่บานปลาย และแนวทางในการแก้ปัญหา โดยมีการเสนอแนวคิดจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า...

บานปลายกลายเป็นมหากาพย์กระทบต่อผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ สำหรับกรณี 'ทุนจีนสีเทา' หลังนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกลรับข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไปอภิปรายในศึกซักฟอกรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทว่า ที่เจอแรงกระแทกมากสุด กลับเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมฝ่ายค้านไปเสียงั้น 

“ปัญหาเรื่องทุนสีเทาเป็นปัญหาที่มีมานานแล้วหลายสิบปี เป็นปัญหาที่เราก็รู้กันอยู่ว่าธุรกิจที่ผิดกฎหมายในเมืองไทยมันมีเยอะ แล้วก็ทุกคนก็วิ่งเข้าหาผู้มีอํานาจ เพื่อจ่ายส่วย หรือว่าหาคนมาดูแลคุ้มครอง โดยรัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รัฐบาลพยายามแก้ปัญหานี้อยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ก็เห็นตรงกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นอกจากแก้ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ลงไปเอาจริงเอาจังในการปราบปรามแล้ว บางเรื่องอาจต้องมีการปรับแก้กฎหมายเพื่อเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เพราะต้องยอมรับว่า บางสิ่งบางอย่างในต่างประเทศเขาถูกกฎหมาย เช่น เรื่องธุรกิจบริการ ผับบาร์ที่เปิดตอนกลางคืน ประเทศอื่นเปิดหลังเที่ยงคืนได้ ขายเหล้าหลังเที่ยงคืนได้ เป็นเมืองไทยทําไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ก็ทําให้ชาวต่างชาติที่มาลงทุน มาท่องเที่ยวในเมืองไทย หรือชาวต่างชาติที่ต้องการดื่มหลังเที่ยงคืนจะต้องจ่ายส่วยเพื่อจะได้เปิดบริการกันได้ก็เกิดทุนสีเทา เกิดธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา เรื่องนี้เป็นตัวอย่างว่า เราควรต้องทบทวน ปรับแก้กฎหมายเพื่ออะไรที่เราคิดว่ารับได้ อะไรคิดว่าเป็นเรื่องสากล"

"ถ้าสังคมรับได้เราแก้กฎหมายเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ทําให้ถูกต้องจะได้ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนเรื่องอะไรที่มันทําไม่ได้จริง ๆ เรื่องยาเสพติด เรื่องการค้ามนุษย์ต้องเอาจริงเอาจังและปราบปรามให้หมดสิ้นให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ จะมีการเสนอเป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ แก้กฎหมายที่ล้าสมัย ที่ขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน อะไรที่พอจะรับได้ที่ต้องปรับให้ทันสมัยให้ตรงกับหลักสากลเพื่อให้ธุรกิจไปได้ เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี จะทำให้ได้เงินเข้ามาพัฒนาประเทศ ธุรกิจไม่ต้องมีการจ่ายส่วย ไม่มีการคอร์รัปชัน” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐระบุ

นอกเหนือจากเรื่องธุรกิจผับบาร์ต่าง ๆ ตามที่นายชัยวุฒิยกตัวอย่างไว้แล้ว 'เจ้าพระยา' ว่าถึงเวลาที่บ้านเราควรเปิดใจทบทวนการนำธุรกิจใต้ดินอย่างเช่นการพนันออนไลน์ที่มีมูลค่ามหาศาล ขึ้นมาไว้บนดิน เพื่อสร้างภาษีรายได้ให้กับรัฐบาล รวมทั้งสามารถวางกฎระเบียบควบคุมป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวเหมือนอย่างที่หลายๆ ประเทศเขาทำกัน เพราะจากข้อเท็จจริงก็ปรากฏให้เห็นกันเต็มตาอยู่แล้วว่าแม้จะมีกฎหมายห้ามนั่นห้ามนี่ แต่ก็ไม่สามารถหยุดให้คนเล่นการพนันได้ 

เช่นเดียวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่มีขายกันเกร่อทางโซเชียลแม้จะถูกกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม สู้ทำให้ถูกต้องเหมือนอย่างบุหรี่มวน เพื่อให้ผู้ค้าต้องอยู่ภายใต้กฎกติกา ไม่กล้าขายให้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์

เชื่อว่าถ้ารัฐบาลหน้านำธุรกิจใต้ดินเหล่านี้ขึ้นมาไว้บนดิน นอกจากจะมีรายได้มหาศาลแล้ว ยังสามารถลดปัญหาส่วยทุจริตคอร์รัปชันที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจใต้ดินเหล่านี้อีกด้วย 

ก็ต้องรอดูกันต่อไป จะมีพรรคการเมืองไหนกล้าชนกับการดัดจริตของคนบางกลุ่ม โดยเอาเรื่องการนำธุรกิจใต้ดินมาไว้บนดิน มาเป็นนโยบายหาเสียงกันบ้าง


ที่มา: https://siamrath.co.th/c/425453