‘กรณ์’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ‘ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อาสาเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้าน

(24 ก.พ.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร. เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค นายปรีชญา ฉ่ำมณี หรือ หำโจ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจัดตั้งตัวแทนและที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเปิดตัว ‘เอม อภัสรา’ นางสาวดนิตา มาบุญธรรม หมอลำชื่อดัง เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ดเขต 1 

นายกรณ์ กล่าวว่า ถ้า เอม อภัสรา ได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร ก็จะเป็นความภาคภูมิใจของคนร้อยเอ็ด เพราะเอม เป็นลูกชาวบ้านที่อาสามาเป็นผู้แทน และมีเจตนารมณ์เดียวกันกับพรรคคือ ไม่ขายความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่สะสมประโยชน์ส่วนตัว เราเน้นทำงานเพื่อแก้ปากท้องของพี่น้องประชาชน สร้างอนาคตให้ลูกหลาน ดูแลผู้สูงอายุ เราสู้ตั้งแต่ยังไม่มี ส.ส.และกล้าชนกับเรื่องปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาคนไทยติดแบล็กลิสต์บูโร สนับสนุนเกษตรกรให้ทำเกษตรพรีเมียม เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร รวมถึงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรมไทย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาสัมผัสในสิ่งที่เขาหาชมที่ไหนไม่ได้ ซึ่งหมอลำ ตอบโจทย์อย่างชัดเจน และเชื่อว่าเอม อภัสรา มีศักยภาพพอที่จะสามารถทำให้ หมอลำ โกอินเตอร์ได้อย่างแน่นอน

ด้านเอม อภัสรา กล่าวว่า ขอบคุณนายกรณ์ ที่ให้โอกาสตนได้มายืน ณ จุดนี้ ส่วนตัวไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะเข้าสู่การเมือง แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วิกฤตโควิด ศิลปินหมอลำ ได้รับผลกระทบอย่างมาก ตนเป็นตัวแทนเรียกร้องขอความช่วยเหลือไปทางราชการ ก็ได้รับการปฏิเสธ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนสนใจการเมือง และตั้งใจจะเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเหลื่อมล้ำหลาย ๆ อย่าง และเหตุผลที่เลือกพรรคชาติพัฒนากล้า โดยส่วนตัวชื่นชอบนายกรณ์ เพราะเป็นนักการเมืองที่มีความเป็นกลาง ไม่ทะเลาะกับใคร มุ่งทำงานเพื่อปากท้องพี่น้องประชาชนจริง ๆ ซึ่งตรงกับตน และเมื่อตัดสินใจลงการเมือง เพื่อแลกกับชื่อเสียงที่สะสมมา ก็ต้องเลือกที่จะแลกกับสิ่งที่ดีที่สุด ตนมั่นใจว่าจะสามารถชนะใจคนรุ่นใหม่ได้ ร้อยเอ็ดถึงเวลาต้องเปลี่ยน  

ต่อมาหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าและทีมงาน เดินทางไปยัง จ.มหาสารคาม เพื่อเปิดตัว นางสาวนุจรีภรณ์ อินทะสร้อย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และ นางสาวกมลวรรณ มณีศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ทั้งสองคนเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่เป็นลูกชาวนา ร่วมก่อตั้งโครงการเกษตรเข้มแข็ง ผลิตข้าวอิ่มทุ่งกุลา ด้วยกระบวนการอินทรีย์ ตามคำแนะนำของนายกรณ์ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จนนำไปสู่การปลดหนี้ทั้งหมู่บ้าน และต่อยอดไปยังการแปรรูปข้าวไปทำขนม ข้าวพอง และเครื่องสำอางผลิตจากจมูกข้าว จนสามารถนำขึ้นไปขายบนเครื่องบินได้ มีกำไร ได้เงินปันผล โดยโมเดลดังกล่าว ได้ขยายผลไปหมู่บ้านอื่น ๆ และจังหวัดใกล้เคียง