หวนคิดถึง ‘วิทนีย์ ฮูสตัน’ ราชินีเพลง R&B 'คีรีบูนดำ' ผู้มีเสียงไพเราะสะกดสวรรค์

เธอคือศิลปินเพียงคนเดียวบน ‘พิภพเพลง’ ที่มีซิงเกิลครองอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง ‘เจ็ดครั้ง’ บน ‘Billboard Hot 100’ จาก ‘Saving All My Love for You’ ในปี ค.ศ. 1985 จนถึง ‘Where Do Broken Hearts Go’ ปี 1988 ราชินีแห่งวงการอาร์แอนด์บีตัวจริงเสียงจริง เธอคือ ‘วิทนีย์ ฮูสตัน’ (Whitney Houston)

ในยุคแรกนักร้องสาวผิวสีหนึ่งเดียวคนนี้ได้รับฉายาจากสื่อตะวันตกว่า ‘คีรีบูนดำ’ (Black Canary) เปรียบเปรยสำเนียงของเธอกับเสียงร้องของนกคีรีบูนอันไพเราะเพราะพริ้งดุจราวปักษากำลังขับกล่อมปวงเทพเทวาบนสวรรค์วิมาน

ฮูสตันเริ่มร้องเพลงในโบสถ์ตั้งแต่ยังเด็ก และยังต่อยอดเป็นนักร้องประสานเสียงของโรงเรียนถึงมัธยมปลาย ต่อมาเธอเมื่อได้ถ่ายปกนิตยสาร 'Seventeen' (1981) จนมาเจอกับกัลยาณมิตรนาม ‘ไคลฟ์ เดวิส’ (Clive Davis) ประธาน Arista Records การจรดปากกาเซ็นสัญญาระหว่างเธอกับค่ายจึงเกิดขึ้นขณะอายุเพียง 19 ปี

นับแต่นั้นชีวิตของวิทนีย์ก็วุ่นวายอยู่กับคำเพียงไม่กี่คำ เช่น ‘อันดับหนึ่ง’, ‘ประสบความสำเร็จ’, ‘รับรางวัล’, ‘สร้างปรากฏการณ์’ หรือ ‘รายได้สูงสุด’ แทบตลอดเวลายามสื่อมวลชนและสังคมเอ่ยถึงเธอ

แต่เหรียญแห่งชีวิตย่อมมีสองด้านเสมอ

'รอยยิ้ม' สว่างไสวของ ‘ควีน ออฟ โซล’ ท่ามกลางผู้คนห้อมล้อมหน้าเวทีคอนเสิร์ต หรือการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เปรียบเสมือนผ้าม่านกำมะหยี่เนื้อหนาสีดำทะมึนที่คอยปกปิด ‘น้ำตา’ อีกด้านไว้อย่างมิดชิดและเงียบงัน กระทั่งเติบโตเป็นปมเขื่องกลางใจ นั่นคือสาเหตุหลักหรือจุดเริ่มของความพังพินาศต่อมา

อย่างที่รู้กัน ‘วิทนีย์ ฮูสตัน’ เติบโตมากับครอบครัวชนชั้นกลางซึ่งเคร่งศาสนา และเธอเองก็มีความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างแรงกล้า แต่รสนิยมเรื่องคบหาผู้ชายของเธอกลับดูจะตรงกันข้าม เพราะหนุ่ม ๆ เข้ามาพัวพันส่วนใหญ่ถูกตีตรายี่ห้อ 'Bad Boy' แทบทุกคน

ประดาเงินทองที่หามาได้จึงโดนสื่อประเภทก็อสซิปขุดคุ้ยว่านำไปปรนเปรอผู้ชายเหล่านั้นในลักษณะการกินอยู่อู้ฟู่หรูหรา เพชร นิล จินดา รถยนต์สปอร์ตราคาแพง และท้ายสุดก็จบลงตรงความมึนเมา ยาเสพติด และความรุนแรง

ยุคปาปารัสซี่ครองเมืองเหล่าแฟนเพลงจะเห็นภาพวิทนีย์สวมแว่นดำและผ้าคลุมผมปิดบังรอยช้ำเขียวบนใบหน้าตามปกนิตยสาร นสพ. บ่อยครั้งจนชินตา

ข่าว ‘Whitney Houston’ ถือว่ามีมูลค่าทางการตลาดสูง มีองค์ประกอบด้านดีด้านร้ายพอกัน เป็นเรื่องราวซึ่งมีความขัดแย้งกันในตัว เหมือนฉากละครเวทีที่หญิงสาวร่างบอบบางคนหนึ่งกำลังถูกยื้อยุดฉุดแขนกันไปมาระหว่าง 'พระเจ้า' กับ 'ซาตาน' นี่แหละอาหารอันโอชะของแร้งกาที่เรียกตัวเองว่า ‘สื่อ’

กระทั่งปี ค.ศ. 1992 ฮูสตันเปิดตัวแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก ด้วยการรับบทเสมือนตนเอง (Rachel Marron) ใน ‘The Bodyguard’ ภาพยนตร์โรแมนติกซึ่งประสบความสำเร็จที่สุดของยุค 90s ได้ ‘แกรมมี่ อะวอร์ดส’ สาขาอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ พ่วงบันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี (I Will Always Love You) และเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของประวัติศาสตร์ดนตรี (สตรี) ด้วยยอดเกิน 20 ล้านชุด เป็นอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ขายดีที่สุดตลอดกาล (ทั่วโลกกว่า 45 ล้านชุด) ตามด้วยคอนเสิร์ต 'The Bodyguard World Tour' (1993 - 94) ครองสถิติ 120 โชว์ครบทั่วทุกผืนทวีป

หรือเธอแค่อยากกับโลกบอกว่า “ฉันก็รักผู้ชายดีๆ เป็นเหมือนกัน” แม้เพียงเกือบสองชั่วโมงในฟิล์มภาพยนตร์ก็ตาม

นกคีรีบูนโดยตามกำเนิดนั้นสีเหลืองอ่อนแกมเขียว แม้ถึงวันนี้ยังไม่มีนักปักษีวิทยาท่านใดเคยพบ 'คีรีบูนสีดำ' แม้แต่ตัวเดียว

ช่วงกลางยุคอุตสาหกรรม 'นกคีรีบูน' มีบทบาทสำคัญต่องานเหมืองถ่านหิน ด้วยความที่มันตัวเล็ก จึงมีอัตราหายใจถี่และซึมซับสารพิษได้สูงเมื่อเทียบกับคน ดังนั้นคนงานเหมืองจึงพกเอากรงคีรีบูนลงไปใต้ดิน ประการแรกเพื่อขับกล่อมชีวิตซึ่งมืนมนและอับทึบ สอง ไว้เตือนภัย เพราะหากมีก๊าซอันตรายนกน้อยจะถึงคราวเคราะห์ก่อน ส่งสัญญาณให้คนขุดเหมืองเร่งหาทางเอาตัวรอด หลังนกน้อยคอพับตกคอนตายคากรง-หนึ่งชีวิตช่วยต่ออีกนับร้อยชีวิต

บ่ายวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012 ศูนย์แพทย์ของเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ได้รับแจ้งว่ามีสุภาพสตรีหมดสติบนห้องสวีทหมายเลข 434 รร. เบเวอร์ลี่ ฮิลตัน จึงเร่งนำกำลังมาช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์ ‘วิทนีย์ ฮูสตัน’ ถูกประกาศว่าเสียชีวิตเมื่อเวลา 15.55 น. อย่างเป็นทางการ-โลกเงียบเสียง

วิญญาณอ่อนล้าปลิดปลิวดั่งวลีสุดท้ายของเพลง 'One Moment in Time' ที่เธอเคยเปล่งร้องไว้อย่างสุดเสียงยาวนานกลางเวทีเกียรติยศ - "I will be, I will be Free."

แล้วราชินีคีรีบูนก็ได้โบยบินอย่างอิสระเสียที

หมายเหตุ: บทความนี้เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร free copy ชื่อ Blast เมื่อปี 2021


เรื่อง: พรชัย นวการพิศุทธิ์

ขอบคุณ: ย้อนเกร็ด - Historic Telling / Blast / 64 October 2021