ผบ.ตร. เปิดโครงการอบรมวิทยากรเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมและใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ให้ตำรวจครูแม่ไก่นำไปถ่ายทอดสู่ประชาชนทั่วประเทศ ลดความขัดแย้งในสังคม

วันนี้ (15 ธ.ค. 65) ที่ เวลา 09.00 น. ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี เปิดอบรม 'โครงการอบรมวิทยากรเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ รุ่นที่ 1' โดยมี พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท. วีระ จิรวีระ รอง จตช. พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย สมาชิกวุฒิสภา/อดีต ผบช.ส. พร้อมด้วย ข้าราชการตำรวจผู้เข้ารับการอบรมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจ ตชด. และตำรวจสันติบาล จำนวน 484 นาย เข้าร่วมพิธีฯ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า “ปัจจุบันสภาพสังคมมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม วิถีการดำเนินชีวิต นำมาซึ่งความขัดแย้งของประชาชน ส่งผลต่อทัศนคติของคนในสังคมที่มีต่อสถาบันหลักของประเทศ ซึ่งอาจจะขยายไปสู่ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ปรับทัศนคติ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ให้กับนักเรียน เยาวชนและประชาชน 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมอบหมายให้ตำรวจสันติบาล เป็นแม่งานในการขับเคลื่อน โดยใช้กลไกของตำรวจชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ (ครูแดร์) ในแต่ละพื้นที่เป็นสื่อกลาง จึงจัดให้มีการอบรม 'โครงการอบรมวิทยากรเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ รุ่นที่ 1' ให้กับตำรวจครูแดร์ขึ้น โดยบช.น.,ภ.1,ตชด.และ สันติบาล โดยจัดขึ้นที่สโมสรตำรวจในวันนี้ ส่วนภาคต่าง ๆ จะมีการจัดอบรมเช่นเดียวกัน ทั่วประเทศ มีทั้งหมด 9 รุ่น จำนวน 3,173 นาย โดยจะอบรมให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.2566 จากนั้นผู้ที่ผ่านการอบรมจะเป็นครูแม่ไก่ นำความรู้ไปต่อยอดถ่ายทอดให้ข้าราชการตำรวจด้วยกันเอง และประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ตามโรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ ที่ครูแดร์เข้าไปอบรมให้ความรู้อยู่แล้ว จะมีการเพิ่มเนื้อหาการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อลดความขัดแย้งในสังคม ทำให้คนในชาติมีความรัก ความสามัคคี เสริมสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติ จนเกิดความยั่งยืนต่อไป”