สหภาพแรงงานโตโยต้าหนุนนโยบายค่าแรง 600 บ. ชี้!! เพียงพอค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
(8 ธ.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปิยรัชต์ สมาทา ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า พร้อมด้วยสมาชิกผู้ใช้แรงงาน เดินทางให้กำลังใจพรรคพท.ซึ่งได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570 โดยมีนายสุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคพท. และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคพท. พร้อมทั้ง นายอรรถชัย อนันเมฆ คณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรค ให้การต้อนรับ
นายปิยรัชต์ กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนได้ หลังจากที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท.ได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบการปริญญาตรีจบใหม่ที่ 25,000 บาทภายในปี 2570 ตนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องแรงงานไทยในหลากหลายองค์กร พบว่าพี่น้องแรงงานไทยต้องการให้ปรับค่าแรงให้มีความสมดุลกับค่าครองชีพ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตได้โดยปกติ สามารถดูแลครอบครัวได้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทไม่ได้เกินกำลังของนายจ้างหรือผู้ประกอบการ เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าธุรกิจต้องมีกำไรจึงจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ภาครัฐซึ่งเป็นส่วนกลางในการนำเสนอนโยบายที่ดี ก็จะมีมาตรการรองรับด้วย จึงขอให้กำลังใจคณะทำงานด้านนโยบายของพรรคพท.ในการผลักดันนโยบายนี้เมื่อสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
“ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ขณะนั้นทุกภาคธุรกิจสามารถปรับตัวได้ ส่วนหนึ่งเพราะนโยบายภาครัฐสอดรับสนับสนุนกัน ทำให้ภาคธุรกิจเดินต่อไปได้ จนสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สามารถแข่งขันกับตลาดในประเทศและตลาดเพื่อการส่งออก เพราะต้นทุนค่าแรงคิดเป็นต้นทุนทางธุรกิจอยู่ที่ 10% เท่านั้น หากคุณภาพชีวิตของลูกจ้างปรับตัวดีขึ้นเพราะค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็นการมองในเชิงเดี่ยว แต่หากมองในเชิงมหภาค การปรับขึ้นค่าแรงจะช่วยหมุนเวียนเศรษฐกิจได้หลายรอบ เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง” นายปิยรัชต์ กล่าว
นายสุธรรม กล่าวว่า บ้านเมืองตกอยู่ในสภาะวิกฤตหนักที่สุด มีหนี้สินสูง รายได้ไม่เพียงพอ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความทุกข์ที่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่ได้ จึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่พรรคการเมืองจะต้องคิด และหาทางออกมากกว่า ส่วนที่รัฐมนตรีบางคนออกมาแสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วย บอกว่าแนวคิดค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทและเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท เป็นหายนะ ตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่คนเป็นรัฐมนตรีจะออกมาคัดค้านแนวคิดที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ทั้งที่ควรจะดีใจและหาวิธีการที่จะทำหรือฝึกฝน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบ้าง แต่สิ่งที่ทำกลับโจมตี แล้วรัฐมนตรีคนนั้นจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้แรงงานได้อย่างไร ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่พรรคไทยรักไทย ประกาศนโยบายกองทุนหมู่บ้าน 70,000 แห่ง สามารถดำเนินการได้จริง เม็ดเงินลงสู่หมู่บ้านโดยตรงถึงมือประชาชนโดยไม่มีเบี้ยไบ้รายทาง รวมทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้งสองนโยบายยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ และอยู่ในใจพี่น้องประชาชน นโยบายเหล่านี้ต้องได้รับการปฏิบัติ สังคมจะก้าวหน้าและดีกว่าที่เป็นอยู่