‘Howard Unruh’ มือสังหารหมู่ด้วยอาวุธปืน ในที่สาธารณะรายแรกของสหรัฐอเมริกา

ในสังคมมนุษย์ของเรานั้น มีความรุนแรงหลายรูปแบบ และเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนนับไม่ถ้วน ‘เหตุการณ์สังหารหมู่ด้วยอาวุธในที่สาธารณะ’ ก็เป็นหนึ่งในความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ และเกิดขึ้นมานานมากแล้ว เราจะเห็นเรื่องราวเช่นนี้ได้ชัดจากสถานการณ์ สงคราม การยึดอำนาจ การปฏิวัติ หรือการทำรัฐประหาร ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไปทั่วโลก และเกิดขึ้นในทุกภูมิภาค 

สำหรับ ‘เหตุการณ์สังหารโดยใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะ’ เกิดขึ้นมาราวๆ ๑๐๐ ปีเศษ อันเนื่องมาจากพัฒนาการของอาวุธปืนแบบบรรจุเอง หรือปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ และปืนแบบอัตโนมัติในเวลาต่อมา 

สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอุตสาหกรรมอาวุธปืนขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และถือเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีด้านอาวุธสงครามที่ทันสมัย นั่นจึงไม่แปลก หากจะเป็นประเทศที่เกิดเหตุความรุนแรงเนื่องมาจากอาวุธปืนบ่อยครั้ง

ส่วนเหตุการณ์สังหารหมู่ด้วยอาวุธปืนในที่สาธารณะครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1949 ซึ่งมีชาวอเมริกันถูกสังหารไปถึง ๑๓ คน ในเวลา ๑๒ นาทีที่เดินทางผ่านย่านที่พักอาศัยของ ‘มือปืน’ ในเมือง Camden มลรัฐ New Jersey  

Howard Barton Unruh

มือปืนรายนี้คือ ‘Howard Barton Unruh’ (21 มกราคม ค.ศ. 1921 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2009) บุตรชายของ Samuel Shipley Unruh และ Freda E. Vollmer เขามีน้องชายคนหนึ่งชื่อ James พวกเขาได้รับการเลี้ยงดูจากแม่หลังจากที่พ่อและแม่ได้แยกทางกัน 

Unruh เติบโตในเขต East Camden มลรัฐ New Jersey และเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้น Cramer Junior และจบการศึกษามัธยมปลายจากโรงเรียนมัธยมปลาย Woodrow Wilson ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1939 หนังสือรุ่นประจำปีของโรงเรียนมัธยมปลาย Woodrow Wilson ในปี ค.ศ. 1939 ระบุว่า เขาเป็นคนขี้อาย และความใฝ่ฝันของเขาคือ การได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 

Unruh สมัครเป็นทหารในกองทัพบกสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1942 และเข้าประจำการในฐานะพลประจำรถถังทำการรบในสมรภูมิยุโรประหว่างเดือนตุลาคม ค.ศ. 1944 ถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1945 

Norman E. Koehn หัวหน้าของ Unruh ระบุว่า เขาจำ Unruh ได้ว่า เคยเป็นพลทหารชั้นหนึ่งที่ไม่เคย ดื่มเหล้า สบถ หรือไล่ตามสาว ๆ และเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านพระคัมภีร์ และเขียนจดหมายยาว ๆ ถึงแม่ของเขา เล่ากันว่า Unruh จดบันทึกเกี่ยวกับศัตรูที่ถูกสังหารในการต่อสู้อย่างพิถีพิถัน โดยลงไปจนถึงรายละเอียดของศพ 


Victory Medal ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญรางวัลเชิดชูเกียรติที่ Howard Unruh ได้รับ

Unruh ได้รับเหรียญรางวัลเชิดชูเกียรติ European Theatre of Operations Medal, Victory Medal และ Good Conduct Medal เขาได้รับการปลดประจำการอย่างมีเกียรติเมื่อสิ้นสุดสงคราม และกลับไปยังมลรัฐ New Jersey เพื่ออยู่กับแม่ของเขา ทั้งน้องชายและพ่อของเขาระบุในภายหลังว่า ประสบการณ์ในช่วงสงครามของ Unruh ทำให้เขาเปลี่ยนไป ทำให้เขาอารมณ์แปรปรวน ประหม่า และแยกตัวจากครอบครัว

หลังจากปลดประจำการ Unruh ได้ผันตัวมาเป็นคนงานของโรงงานโลหะแผ่น แต่ก็เข้าทำงานเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ 

หลังจากนั้นเขาก็สมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยเภสัชกรรม มหาวิทยาลัย Temple มลรัฐ Philadelphia แต่ลาออกหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน โดยอ้างถึง ‘เหตุผลทางสุขภาพ’ 

Unruh อยู่ได้โดยอาศัยรายได้ของแม่ของเขา ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานสบู่ Unruh เก็บตัวในบ้าน ประดับเหรียญรางวัลเชิดชูเกียรติของเขา อ่านพระคัมภีร์ และฝึกยิงปืนในห้องใต้ดิน ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นห้องฝึกซ้อมยิงปืน


ภาพวาดของ Howard Unruh

ในช่วงเวลานี้เองที่ความสัมพันธ์ของ Unruh กับเพื่อนบ้านของเขาเลวร้ายลง ซ้ำร้ายความขุ่นเคืองใจของเขาก็เพิ่มขึ้นจากสิ่งที่เขามองว่าเป็น ‘คำพูดที่ดูถูกเกี่ยวกับตัวตนของเขา’ จากเพื่อนบ้าน

โดย James น้องชายของเขาได้ชี้ไปที่ประเด็นความบาดหมางระหว่าง Unruh กับเพื่อนบ้านของเขาคือ ‘ดร. Maurice Cohen’ มีอาชีพเป็นเภสัชกร ทั้งสองบาดหมางกันเรื่องที่ Unruh ใช้สวนหลังบ้านของ Cohen เพื่อเป็นทางเข้าอพาร์ตเมนต์ของเขา 

โดยก่อนเกิดการสังหาร ‘Unruh’ ได้ไปที่โรงภาพยนตร์ใน Philadelphia และชมภาพยนตร์ไปหลายเรื่องก่อนที่จะกลับบ้านในช่วงเวลาตีสาม ทั้งนี้เขาไปโรงภาพยนตร์เพื่อพบกับชายคนหนึ่งตามนัด แต่เขาไปสาย และไม่ได้เจอกับชายคนที่เขานัดเอาไว้ และเมื่อกลับถึงบ้าน ประตูที่เขาได้ติดตั้งในวันนั้นก็ถูกถอดออกไปแล้ว

ปืนพกแบบ Luger P08

เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. ของวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1949 Unruh รับประทานอาหารเช้าที่แม่ของเขาเตรียมไว้ จากนั้นจึงออกไปพบ ‘Carolina Pinner’ เพื่อนบ้านในเวลาประมาณ ๐๙.๒๐ น. เขาพกปืนพกแบบ ‘Luger P08’ ซึ่งบรรจุกระสุนได้ ๘ นัด และกระสุนอีกจำนวนมากในกระเป๋า เขาออกจากอพาร์ตเมนต์ และเดินออกไปที่ถนน River เมื่อเดินเข้าใกล้รถบรรทุกส่งขนมปัง Unruh ดันปืนพกของเขาผ่านประตูแล้วยิงไปที่คนขับ เขายิงพลาดไปสองสามนิ้ว และแม้คนขับจะพยายามเตือนชาวบ้านแต่ก็ไม่เป็นผล


แผนผังแสดงตำแหน่งที่พบศพของเหยื่อและผู้บาดเจ็บแต่ละราย

‘Unruh’ เข้าไปในร้านทำรองเท้า ‘John Pilarchik’ ซึ่งเป็นร้านของหนึ่งในเพื่อนบ้านของเขา เมื่อเข้าไปถึงเขาได้ลั่นไกยิงทันที 

หลังจากนั้น เขาตรงไปที่ร้านตัดผมของ Clark Hoover เพื่อนบ้านอีกคน ซึ่งกำลังตัดผมให้ Orris Smith เด็กชายวัยหกขวบ เขายิง Hoover เข้าที่ศีรษะ และยิง Smith เข้าที่คอ ทั้งคู่เสียชีวิตทันที 

จากนั้น Unruh ยังวิ่งต่อไปที่ร้านขายยาของ Cohen โดยได้พบกับ James Hutton และยิงเขาทันที จากนั้น Unruh ก็เดินเข้าไปยังด้านหลังของร้านขายยา และเห็น Cohen และ Rose ภรรยากำลังวิ่งขึ้นบันไดเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของพวกเขา 

เมื่ออยู่ในอพาร์ตเมนต์ Cohen ปีนผ่านหน้าต่างขึ้นไปบนหลังคาเฉลียง ขณะที่ Rose และ Charles ลูกชายวัย ๑๒ ปี ของพวกเขาซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าคนละใบ อย่างไรก็ตาม Unruh พบตู้เสื้อผ้าใบที่ Rose ซ่อนตัวอยู่ จึงยิงทะลุประตูตู้เข้าไป ๓ นัด ก่อนที่จะเปิดออก และยิงเข้าที่หน้าของ Rose อีกนัด เมื่อเดินข้ามอพาร์ตเมนต์ เขาก็เห็น Minnie แม่ของ Cohen วัย ๖๓ ปี พยายามโทรหาตำรวจ เขาใส่ยิงเธอหลายนัด จากนั้นเขาก็เดินตาม Cohen ขึ้นไปบนระเบียงหลังคา แล้วยิง Cohen เข้าที่ด้านหลัง ทำให้ Cohen ตกลงไปยังพื้นเบื้องล่าง ส่วน Charles ที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้อีกใบ และสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธเข้าล้อมพื้นที่เกิดเหตุที่ Unruh ใช้ซ่อนตัว

จากนั้น Unruh ก็เดินเข้าไปกลางถนน River และยิงปืนเข้าใส่รถเก๋งคันหนึ่งที่กำลังแล่นเข้ามา เป็นเหตุให้ Alvin Day คนขับเสียชีวิตทันที และทำให้รถเสียหลักพุ่งขึ้นไปบนทางเท้า 

จากนั้นเขาเข้าไปในร้านตัดเสื้อของ Thomas Zegrino แต่ตัวของ Thomas ไม่ได้อยู่ที่นั่น จึงทำให้ Helga ภรรยาของเขารับเคราะห์แทน ซึ่ง Thomas เป็นเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของ Unruh ที่เขาตั้งใจจะเอาชีวิต แต่ Thomas รอดชีวิตไปได้ 

หลังจากนั้น Unruh ก็เดินเข้าไปใกล้รถที่จอดรอสัญญาณไฟอยู่ที่สี่แยก และยิงผู้โดยสาร Helen Wilson และ John ลูกชายของเธอ และ Emma Matlack แม่ของเธอ หญิงทั้งสองเสียชีวิตทันที ส่วนเด็กชายเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล Cooper 

จากนั้น Unruh ก็ยิงออกไปนอกหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ของเขา ทำให้ Thomas Hamilton เด็กชายวัย ๒ ขวบเสียชีวิต (เป็นผลให้ Irene Rice พี่เลี้ยงผู้ดูแลเด็กชายถึงกับเป็นลมล้มทรุดเมื่อเห็นเหตุกราดยิง และต้องได้รับการรักษาด้วยอาการช็อกอย่างรุนแรง)

ต่อมา Unruh ยิงใส่รถคันอื่นที่วิ่งมาตามถนน แต่ ‘Charles Peterson’ และ ‘James Crawford’ ทั้งสองคนในรถสามารถหลบหนีไปยังโรงแรมเล็ก ๆ ใกล้เคียงและรอดชีวิตมาได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธเข้าล้อมพื้นที่เกิดเหตุที่ Unruh ใช้ซ่อนตัว

William McNeely ผู้เป็นพยานได้เห็น Frank Engel วิ่งออกจากโรงแรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ และยิงปืนใส่ Unruh แต่พลาดในตอนแรก แล้วเขาก็วิ่งกลับเข้าไปข้างใน แต่ในความเป็นจริงแล้ว Frank Engel ยิงถูกขาของ Unruh ส่วน Unruh ยิงใส่ผู้คนอีกหลายคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้พวกเขาต้องหลบหนีไป 

จากนั้น Unruh ก็พบกับ Madeline Harris และ Armand ลูกชายของเธอ โดย Unruh ใช้ปืนยิงใส่ทั้งสองจนได้รับบาดเจ็บแต่ก็รอดชีวิตมาได้

 เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธเข้าล้อมพื้นที่เกิดเหตุที่ Unruh ใช้ซ่อนตัว

เมื่อได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจในระยะไกล Unruh กลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่คนแรกในที่มาในเกิดเหตุคือนักสืบ ‘William E. Kelly, Sr.’ จากนั้นก็เกิดการดวลปืนขึ้น 

ซึ่งระหว่างนั้น Philip Buxton นักข่าวจาก Camden Evening Courier ก็พบหมายเลขโทรศัพท์ของ Unruh ในสมุดโทรศัพท์ท้องถิ่น และโทรเข้าไปคุยกับออก Unruh ครู่หนึ่งก่อนที่ตำรวจจะขว้างระเบิดแก๊สน้ำตา ๒ ลูกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ทำให้แก๊สเต็มห้อง เจ้าหน้าที่ติดอาวุธสองคนคือ Charles Hance และ รตอ. Everett Joslin ขึ้นไปที่ชั้นหนึ่งของอาคาร พร้อมทั้งตะโกนว่า “ลงมาพร้อมกับยกมือขึ้น”

โดย Unruh ตอบว่า “ผมยอมแล้ว อย่ายิง” 

Unruh โผล่ออกมาจากห้อง และสะดุดขณะลงบันได ทำให้เขาล้มลงแทบเท้าของเจ้าหน้าที่ จ่านายสิบตำรวจ Earl Wright จึงจัดการใส่กุญแจมือเขาเอาไว้

Howard Unruh ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว

หลังการตรวจสอบ ตำรวจพบว่า อพาร์ทเมนต์ของ Unruh เรียกได้ว่าเป็นคลังอาวุธ เพราะมันเต็มไป ปืน มีด อุปกรณ์ทำกระสุน และกระสุนมากกว่า ๗๐๐ นัด ในลิ้นชักมีเหรียญนักแม่นปืนหลายเหรียญ และในห้องใต้ดินคือ ระยะเป้าหมายของ Unruh บนโต๊ะมีพระคัมภีร์เล่มหนึ่งเปิดในหน้า Matthew บทที่ 24 แล้วยังพบว่า เขามีหนังสือเกี่ยวกับสุขอนามัยทางเพศอีกด้วย 

ภายใต้การสอบปากคำของตำรวจ Unruh ได้ให้การเกี่ยวกับการกระทำของเขาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน ซึ่งต่อมา Mitchell Cohen อัยการของ Camden County (ไม่เกี่ยวข้องกับ Maurice Cohen) ได้ยอมให้ Unruh ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Cooper เพื่อรับการรักษา เนื่องจากในตอนท้ายของการสอบปากคำ ตำรวจพบว่า Unruh มีบาดแผลกระสุนปืนที่ต้นขาซ้ายของเขา ทั้งนี้ โรงพยาบาล Cooper เป็นที่ซึ่งเหยื่อรายที่สิบสามของ Unruh หรือคือ John Wilson ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ข่าวการสังหารหมู่ Walk of Death ณ ถนน Camden โดย Howard Unruh

Howard Unruh ถูกตั้ง ๑๓ ข้อหาว่า ‘ทำการสังหารโดยจงใจ และมุ่งร้ายด้วยการคิดร้าย’ และ ๓ ข้อหาว่า ‘ทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม’ แต่แล้วในที่สุด Unruh ก็ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคจิตเภทแบบหวาดระแวงโดยนักจิตวิทยา และระบุว่า เขาเสียสติ ทำให้เขารอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีทางอาญา 

เมื่อเขาสามารถออกจากโรงพยาบาล Cooper ได้ Unruh ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล New Jersey สำหรับผู้ป่วยวิกลจริต (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลจิตเวช Trenton) ที่ซึ่งเขาถูกควบคุมตัวในห้องขังเดี่ยวในอาคารที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด เขายังคงถูกคุมขังอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2009 รวมอายุได้ ๘๘ ปี 

คำพูดต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้ายของ Unruh ซึ่งกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับนักจิตวิทยาคือ “ผมคงฆ่าคนได้อีกเป็นพันคน ถ้าหากมีกระสุนพอ”
 

สำหรับเหยื่อของ Unruh เสียชีวิตไป ๑๓ ราย และบาดเจ็บอีก ๓ ราย รายชื่อและอายุของผู้ที่ถูกสังหารมีดังนี้ :
- John Joseph Pilarchik อายุ ๒๗ ปี
- Orris Martin Smith, ๖ ขวบ
- Clark Hoover ๔๕ ปี
- James Hutton อายุ ๔๖ ปี
- Rose Cohen อายุ ๓๘ ปี
- Minnie Cohen อายุ ๖๓ ปี
- Dr. Maurice J. Cohen อายุ ๓๙ ปี
- Alvin Day อายุ ๒๔ ปี
- Thomas Hamilton อายุ ๒ ขวบ
- Helga Kautzach Zegrino อายุ ๒๘ ปี
- Emma Matlack อายุ ๖๘ ปี
- Helen Wilson อายุ ๓๗ ปี
- John Wilson อายุ ๙ ขวบ


Carly Novell ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมปลาย Marjory Stoneman Douglas 
เมือง Parkland มลรัฐ Florida เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 
โดยเธอซ่อนตัวอยู่ในตู้เหมือนที่ Charles Cohen ตาของเธอทำในปี ค.ศ. 1949

Charles ลูกชายของ Maurice และ Rose Cohen ซึ่งขณะนั้นอายุ ๑๒ ปี รอดชีวิตจากการฆาตกรรมทั้งครอบครัวด้วยการซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า Charles เขาเป็นตาของ Carly Novell ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมปลาย Marjory Stoneman Douglas ในเมือง Parkland มลรัฐ Florida เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 โดยเธอซ่อนตัวอยู่ในตู้เหมือนกับที่ตาของเธอเคยทำในปี ค.ศ. 1949 และ Charles Cohen เสียชีวิตเมื่ออายุได้ ๗๒ ปี ในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2009 และถูกฝังในอีกสองวันต่อมาคือ วันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2009 (ในวันครบรอบ ๖๐ ปีของการสังหารหมู่ และเพียงหนึ่งเดือนก่อนการเสียชีวิตของ Unruh) และ Meyer Berger จาก The New York Times ได้รับรางวัล Pulitzer Prize ประเภทท้องถิ่น สำหรับเรื่องราวของ Walk of Death ขนาด ๔,๐๐๐ คำของเขา 

สำหรับเรื่องราวการใช้ความรุนแรงจากอาวุธปืน อย่างในกรณีที่ได้เล่าไปนั้น ท้ายสุดผู้ที่กระทำผิดมักถูกวินิจฉัยว่า ‘วิกลจริต สติวิปลาส’ ดังนั้นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้คือ ‘การแยกคนบ้าให้อยู่ห่างจากอาวุธทุกชนิด’ และอุปกรณ์ที่อาจใช้เป็นเครื่องมือในการสังหารได้ แม้กระทั่ง รถยนต์ก็ไม่ควรให้ขับ 

อย่างกรณีรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นพูดขู่ฆ่าล้างบาง ทางปกครองจังหวัดก็ควรตรวจสอบว่า รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคนดังกล่าวมีอาวุธปืนในครอบครองหรือไม่ ถ้ามีก็สมควรเพิกถอนใบอนุญาตฯ พร้อมทั้งนำอาวุธปืนในครอบครองของรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคนดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ 

แต่น่าเสียดาย ข้อเสียของบ้านเราคือ ชอบทำอะไรแบบ ‘วัวหายแล้วล้อมคอก’ ไม่ยอมทำแบบ ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ จึงมักมีเหตุสลดเกิดขึ้นอยู่ร่ำไป