73% นศ.มะกัน ตะลุย 'ช้อปหรู-เที่ยวสนั่น' หลังรัฐบาล 'ไบเดน' ยกหนี้ กยศ. ให้
นักศึกษาอเมริกันทั่วประเทศเริงร่า หลังจากที่โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่ายกหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาให้นักศึกษาทั่วประเทศสูงสุดถึง 20,000 ดอลลาร์ต่อคน รอเพียงการพิจารณาจากศาลสูงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เท่านั้น
ด้วยนโยบายนี้ นักศึกษาในระบบกู้ยืมเงินด้านการศึกษาจะได้รับสิทธิ์ และมีการคำนวนยอดหนี้กันใหม่ทั้งหมด ที่จะทำให้มีภาระการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนน้อยลงสูงสุดถึง 300 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่านักศึกษาเหล่านี้จะมีเงินเหลือไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ทว่า จากการสำรวจพบว่า มีนักศึกษา กยศ. สหรัฐฯ มากถึง 73% ตอบว่า เขาตั้งใจจะใช้จ่ายเงินที่เหลือจากการยกหนี้กู้ยืมเรียนของรัฐบาลไปช้อปปิ้ง ซื้อของฟุ่มเฟือย ดินเนอร์หรู ซื้อสินค้าไอทีใหม่ๆ หรือไม่ก็เอาเงินไปเที่ยวกันเสียมากกว่า แม้จะรู้ตัวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และรู้สึกผิดก็ตาม แต่ก็จะเอาเงินไปใช้ในเรื่องกิน-เที่ยวอยู่ดี
ขณะที่มีนักศึกษาเพียง 37% เท่านั้น ที่วางแผนว่าจะสำรองเงินส่วนนี้ไว้สำหรับค่าเช่าบ้าน และ ค่ากินอยู่ เพราะถึงแม้ว่าเงินกู้ยืมจะลดลง แต่ค่าครองชีพนั้นสูงขึ้นมาก การใช้ชีวิตประจำวัน จึงไม่ได้สบายกว่าเดิมสักกี่มากน้อย
นี่จึงเป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายยกหนี้ กยศ. ของโจ ไบเดน ด้วยเหตุผลว่า เป็นการใช้ภาษีประชาชนชาวอเมริกันในทางที่ผิด เพราะเป็นการผลักภาระหนี้สินของคนกู้เงิน มาใช้ชาวอเมริกันผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ที่ไม่ได้กู้เป็นผู้จ่าย
และจากผลสำรวจก็พบว่า ผู้ที่ต้องกู้ยืมเงินเรียนส่วนมากเป็นนักศึกษาที่เรียนต่อในระดับสูง หรือ เรียนในสาขาวิชาเทคนิคเฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูงก็จริง แต่เมื่อเรียนจบมาแล้ว จะสามารถหางานที่มีค่าตอบแทนที่สูงได้ จึงทำให้การยกผลหนี้ให้กับนักศึกษากลุ่มนี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลย แต่รัฐบาลกลับเอางบประมาณจากภาษีของชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก จ่ายภาษีเต็มมาชดเชยให้
นอกจากนี้ ยังมีหลายฝ่ายมองว่า นโยบายยกหนี้ กยศ. ของโจ ไบเดน มีมาเพื่อหวังผลทางการเมืองเสียมากกว่า เป็นนโยบายประชานิยมที่หวังคะแนนเสียงของกลุ่มนักศึกษาให้เทคะแนนให้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2024 ซึ่ง โจ ไบเดน ประกาศว่าจะลงชิงชัยต่อในสมัยที่ 2 ด้วย
ถึงอย่างไรก็ดี ก็มีหลายคนที่สนับสนุนนโยบายนี้ ที่จะช่วยสนับสนุนในนักศึกษาอเมริกันตัดสินใจเรียนต่อในระดับสูงมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องพฤติกรรมการใช้เงิน เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ควรเร่งสร้างความเข้าใจ และปรับแก้ทัศนคติที่ดีในการใช้จ่ายเงินทองอย่างเหมาะสม
โดย เจสัน บลัมสตีน ผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินได้ออกมาเตือนนักศึกษาอเมริกันว่า อย่ามองว่าการยกหนี้ กยศ. เป็นดั่งลาภลอย แต่ควรรู้จักตั้งเป้าหมายทางการเงินไว้ว่าเราควรใช้ผลประโยชน์จากภาระหนี้ที่ไม่ต้องจ่ายแล้วอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจาก กิน-เที่ยว หรือ เก็บเป็นเงินสำรองค่าใช้จ่ายเฉยๆ อาทิ การลงทุนต่อยอด หรือ การวางแผนการใช้จ่ายในระยะยาว เพื่อจะได้ไม่เสียใจทีหลังว่า กว่าจะเรียนจบ เงินก็หมดเสียแล้ว
เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: CNBC / National Review