'ปูติน' ชำแหละ!! ทุกความขัดแย้งและความปั่นป่วนเพราะชาติตะวันตกหวังควบคุมโลก ซึ่งมันจะไม่เป็นผล

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้ใช้เวลากว่าสามชั่วโมงบรรยายและตอบคำถามจากสื่อในเรื่องต่าง ๆ ในงาน Valdai Discussion Club ที่รัสเซีย

คำพูดและคำตอบหลาย ๆ เรื่องน่าสนใจ ถ้าใครมีเวลา 3 ชั่วโมงครึ่งอยากดู/ฟังทั้งหมด เชิญที่ Link >> https://www.youtube.com/watch?v=p5UUN6Y-KbY
(ปธน.ปูตินใช้ภาษารัสเซียเกือบทั้งหมด แต่มีผู้บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ)

>> เรื่องแรก โลกกำลังเข้าสู่ยุคของความชุลมุนวุ่นวาย อันเป็นผลมาจากการดิ้นรนของชาติตะวันตกในการรักษาอำนาจและอิทธิพลของตนแต่ฝ่ายเดียวในการครอบงำโลกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม ค่านิยม และอื่น ๆ 

ความขัดแย้งในยูเครน การยั่วยุในไต้หวัน ความปั่นป่วนของตลาดพลังงาน และอาหาร ล้วนเป็นผลจากความพยายามของชาติตะวันตกในการควบคุมโลก ซึ่งจะไม่เป็นผล 

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ สถาปนาตนเองเป็นผู้ตั้งกฏกติกาของโลกโดยเอาประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง แต่พวกตนเองกลับไม่ปฏิบัติตามกฏกติกาเหล่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเสียประโยชน์ อย่างเช่น การค้า การเงินและการลงทุนเสรีที่ชาติตะวันตกข่มขู่และบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ต้องเปิดประเทศ เพราะพวกตนก้าวหน้ากว่าใครทั้งเรื่องของทุน เทคโนโลยี แต่เมื่อมีคนอื่นขึ้นมานำบ้าง ก็ละทิ้งหลักการการค้าเสรีอย่างกรณีของหัวเว่ย และการบังคับผู้ผลิตไม่ให้ขายไมโครชิปให้กับธุรกิจของจีน

สิ่งเหล่านี้ เป็นที่ชัดเจนมากขึ้น ๆ ในสายตาของชาวโลก และนับจากนี้ไป จะไม่มีชาติที่เป็นเอกราช ที่คิดถึงประโยชน์ของตนเองและประชาชนของตน ยอมตกเป็นเหยื่อทางความคิดของชาติตะวันตกอีกต่อไป จะไม่มีใครนั่งเฉยอีกต่อไป แต่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ของการเริ่มต้นของกติกาโลกใหม่ที่เป็นธรรมต่อทุกชาติ และปฏิบัติต่อทุกชาติอย่างสมฐานะ ไม่ใช่ผู้ฟังคำสั่งที่ต้องเชื่อฟังอีกต่อไป

>> เรื่องต่อไป ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก โดย ปูติน กล่าวว่า รัสเซียเป็นชาติเอกราชที่มีอารยธรรมแบบของตนเอง และไม่คิดว่าโลกตะวันตกเป็นศัตรู รวมทั้งไม่คิดตั้งตัวเป็นศัตรูของชาติตะวันตกด้วย

แต่ปัจจุบัน ชาติตะวันตกถูกปกครองโดยชนชั้นนำที่มีความเชื่อเรื่องเสรีนิยมสุดขั้ว ที่เห็นว่าใครก็ตามที่มีความเชื่อต่างจากตนจะต้องเป็นศัตรูไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย, จีน หรืออิหร่าน หรือใครก็ตามที่ปฏิเสธ ดื้อดึง แข็งขืน ต่อต้านแนวคิดเสรีนิยมของพวกเขาจะถูกกำหนดให้เป็นศัตรูของพวกตนทันที

ปูติน ขยายความว่า ในขณะที่ชาติตะวันตกมีรากฐานความเชื่อในคริสต์ศาสนา ซึ่งใกล้เคียงกับรากฐานทางวัฒนธรรมของรัสเซีย ลัทธิเสรีนิยมที่เพิ่งเกิดขึ้นมาหลังชาติตะวันตกชนะสงครามโลกครั้งที่สอง และสำคัญตนผิดว่าเหนือกว่าชาวโลก กลับนิยมความรุนแรง ก้าวร้าว และไม่อดทนต่อใครก็ตามที่ต่างจากตนเอง ไม่เชื่อฟังตนเอง ไม่ต่างจากลัทธิจักรวรรดินิยม หรือ 'เจ้าอาณานิคมยุคใหม่'

ลัทธิเสรีนิยมของชาติตะวันตก เชื่อว่าตนเองมีสิทธิที่จะกำหนดให้คนทั้งโลกรับเอาความเชื่อและค่านิยมของตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เสรีภาพของการแสดงออกโดยไม่มีขอบเขต สิทธิมนุษยชน สิทธิของสัตว์ รวมถึงเพศสภาพ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

>> เรื่องต่อไป สงครามในยูเครน ปูตินกล่าวว่า เขาแน่ใจว่าเขาตัดสินใจเรื่องของยูเครนได้ถูกต้อง และการตัดสินใจของเขาสามารถรักษาชีวิตของชาวยูเครนเชื้อสายรัสเซียนับแสนคนเอาไว้ได้

ปูตินเปรียบว่าการสู้รบในยูเครนเป็นเสมือนสงครามกลางเมืองเพราะคนรัสเซียและยูเครนต่างมีที่มาจากชนชาติสลาฟ ดินแดนที่เป็นประเทศยูเครนก็เป็นสิ่งที่สหภาพโซเวียตยกให้ไปอย่างสันติเมื่อสิ้นสุดยุคของสหภาพโซเวียต เช่นเดียวกับประเทศอื่นที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต

>> เรื่องต่อไป สหรัฐอเมริกา ปธน.ปูตินประกาศว่าสหรัฐฯ ได้มาถึงจุดที่ไม่สามารถนำเสนอสิ่งดีๆ หรือความคิดสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อโลกแล้ว แม้กระทั่งพันธมิตรฯ ชาติตะวันตกของตน สหรัฐฯ ยังนำความพินาศมาให้อย่างเรื่องของอียูและพลังงานจากรัสเซีย ที่สหรัฐฯ เข้ามาบงการ บ่อนทำลายจนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมของอียูอยู่บนขอบเหวของความล่มสลาย 

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ประพฤติตนเหมือนกับเป็นผู้ปกครองโลก เมื่อไม่ชอบใครเพราะคิดเห็นต่างจากตนเอง ก็หาเหตุเข้าแทรกแซงทำลายล้างโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาต่อผู้คนในชาติเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น อิรัก, ลิเบีย, ซีเรีย, อัฟกานิสถาน, จีน ซึ่งทำให้ชาติต่างๆ ระมัดระวังสหรัฐฯ มากขึ้น จนในที่สุด ความสัมพันธ์จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์เท่านั้น

>> เรื่องต่อไป เพศสภาพ ปธน.ปูติน กล่าวว่า ทุกชาติ ทุกวัฒนธรรมต่างมีที่มา มีประวัติศาสตร์ มีเหตุผลของตนเอง ไม่ว่าจะสมเหตุสมผล หรือแปลกประหลาดแค่ไหนก็ตาม 

การยอมรับในวัฒนธรรมและความเชื่อที่ต่างจากตนเอง เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะสำหรับชาติตะวันตกที่จะสูญเสียความสามารถในการผูกขาดความคิด ความถูกต้อง และจะต้องกลายเป็นชนกลุ่มน้อยในอนาคตอันใกล้ ในขณะที่ต้องไม่มีใครไปบังคับให้ชาติตะวันตกต้องเชื่อในสิ่งที่ตนเองเชื่อและปฏิบัติตามธรรมเนียมของตน ชาติตะวันตกก็ไม่มีสิทธิไปบังคับผู้อื่นด้วยเช่นกัน

สำหรับเรื่องเพศสภาพ รัสเซียมีความเชื่อมีขนบธรรมเนียมต่อเรื่องนี้ และทั้งความเชื่อและธรรมเนียมของรัสเซียในเรื่องนี้จะดำเนินต่อไป 

(หมายเหตุ: ขอจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของแต่ละคน ไม่สนับสนุน ไม่ให้สิทธิพิเศษใดๆ มากไปกว่าชายหญิง และไม่ปล่อยให้มีการสนับสนุนโดยจะมีการลงโทษ)


ที่มา: Sompob Pordi
https://www.youtube.com/watch?v=p5UUN6Y-KbY