'จีน' เดินหน้า!! พร้อมใช้ 'ดิจิทัลหยวน' หลังทดสอบธุรกรรมจริงระหว่างประเทศผ่านฉลุย

รัฐบาลจีนมั่นใจ พร้อมใช้ 'ดิจิทัลหยวน' หลังผ่านช่วงทดสอบการทำธุรกรรมจริงเป็นเวลา 40 วัน ร่วมกับสถาบันการเงินกว่า 20 แห่งของพันธมิตรทั้งฮ่องกง, ไทย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

ธนาคารแห่งชาติจีน ได้ทำการทดสอบการใช้ดิจิทัลหยวนตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม - 23 กันยายน 2565 บนแพลตฟอร์ม mBridge ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม ชำระเงินข้ามประเทศ ริเริ่มโดยสถาบันการเงินของฮ่องกง Hong Kong Monetary Authority ร่วมกับ Bank for International Settlement (BIS) และธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2019 และต่อมา ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ได้เข้าร่วมโปรเจกต์นี้ด้วยในปี 2564 

ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงทดสอบขั้นสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านที่มีการทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนจริง และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่า 160 รายการ รวมมูลค่าการทำธุรกรรมสูงถึง 150 ล้านหยวน อีกทั้งยังทดสอบออกเงินดิจิทัลหยวน ผ่านระบบของ mBridge ไปแล้วไม่น้อยกว่า 80 ล้านหยวน จนสามารถสรุปได้ว่า โครงการนำร่องทดสอบการใช้ ดิจิทัลหยวนบนแพลตฟอร์มใหม่นี้ช่วยลดขั้นตอน ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และยังลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมต่างประเทศได้จริงๆ

ธัญธร คุณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านเงินดิจิทัล จากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แสดงความเห็นผ่าน LinkedIn ว่า นี่เป็นโครงการนำร่องรายแรกของโลกที่ใช้ เงินสกุลดิจิทัลมูลค่าจริง ที่ออกโดยธนาคารกลางของจีน สำหรับการชำระเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ และยังกล่าวอีกว่า "เป็นความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่ได้สร้างความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ เราเพิ่งเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ของ CBDC ในการเชื่อมโยงพรมแดน และอำนวยความสะดวกด้านการค้า/การเติบโตทางเศรษฐกิจ”  

ทั้งนี้ จีนไม่ได้มองเพียงแค่การใช้ดิจิทัลหยวน หรือ e-CNY เพื่อซื้อขายสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไปเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงโอกาสในการลงทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และ สินเชื่อในรูปแบบดิจิทัล ที่จะทำให้การใช้ e-CNY อย่างแพร่หลาย และ แข็งแกร่งไม่ต่างจากเงินหยวนแบบดั้งเดิม

ปัจจุบัน เงินดิจิทัลหยวน เริ่มมีการใช้จริงในท้องตลาดแล้วถึง 20 เมืองใหญ่ในประเทศจีน แต่ถึงแม้ว่าการใช้เงินดิจิทัลอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ของชาวจีน ที่ส่วนใหญ่เคยใช้ผ่านรูปแบบ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ของบริษัทเอกชน อาทิ Alipay  หรือ WeChat Pay  

แต่ยังมีบางประเด็นที่อาจเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง จากผลสำรวจพบว่า มีชาวจีนมากถึง 990 ล้านคน มีสมาร์ตโฟนใช้แล้ว แม้ว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อาจยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง โดยตอนนี้ยังมีประชากรจีนอีกราว 20% ที่ยังเข้าไม่ถึงระบบอินเทอร์เน็ต 

นอกจากนี้ การกวาดล้างบริษัท Fintech ครั้งใหญ่ของจีน เพื่อสกัดดาวรุ่งอย่างบริษัท Ant Group, Tencent และ Didi มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีนต่อการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัลบ้าง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน  e-CNY เงินดิจิทัลหยวนสกุลหลักที่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้รับรอง ที่กำลังเป็นที่จับตามองว่า การเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบของดิจิทัลหยวนของจีน จะผลักดันให้รัฐบาลอีกหลายประเทศต้องรีบออกเงินดิจิทัลของตนเองออกมาเช่นกัน 


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: South China Morning Post / DW / Bitcoin Addict