4 สิงหาคม พ.ศ. 2539 ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรก

วันนี้เมื่อ 26 ปีก่อน แฟนกีฬาชาวไทยได้เฮลั่น เมื่อ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ นักมวยสากลสมัครเล่น สามารถคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกให้กับประเทศไทยได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ 

ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิด 1996 ซึ่งถูกจัดขึ้นที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นตัวแทนนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นไทย ในรุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนักไม่เกิน 57 กิโลกรัม เข้าร่วมการแข่งขันภายใต้ความหวังของแฟนกีฬาชาวไทยว่าจะสามารถคว้าเหรียญมองแรกให้ประเทศไทยในกีฬาโอลิมปิกได้สำเร็จ เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันในรุ่นเดียวกัน จากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 1994 มาได้ก่อนหน้านั้น จึงกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่แฟนกีฬาชาวไทยคาดหวัง

ด้วยผลงานจากรอบแรกไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ ที่สมรักษ์ คำสิงห์ สามารถเอาชนะคู่แข่งจากประเทศ เปอร์โตริโก แอฟริกาใต้ รัสเซีย และอาร์เจนตินา ได้สำเร็จอย่างงดงาม ยิ่งทำให้แฟนกีฬาชาวไทยยิ่งเกิดความคาดหวังมากยิ่งขึ้น

ในรอบชิงชนะเลิศ สมรักษ์ คำสิงห์ ต้องพบกับ คู่แข่งขันที่แข็งแกร่งจากประเทศ บัลแกเรีย อย่าง เซราฟิม โทโดรอฟ (Serafim Todorov) ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกมวยสากลสมัครเล่น 3 สมัย และที่สำคัญ ในรอบรองชนะเลิศ โทโดรอฟ ก็สามารถเอาชนะยอดมวยเจ้าภาพอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ มาได้ จึงนับได้ว่า โทโดรอฟ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างมาก

และในการแข่งขันในครั้งนั้นใช้กฎกติกาการให้คะแนนแบบหมัดต่อหมัด และยังมีการขึ้นคะแนนแบบเรียลไทม์ให้ผู้ชมถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ได้เห็น ยิ่งทำให้การลุ้นการแข่งขันของแฟน ๆ กีฬาชาวไทยตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา

โดยช่วงยกแรกสมรักษ์ถูกทำคะแนนนำไปก่อนในช่วงต้นยก แต่ก็สามารถค่อย ๆ ทำคะแนนตีตื้นขึ้นมา ด้วยลีลาการชกที่เหนือชั้น จนสามารถทำคะแนนแซงได้สำเร็จก่อนหมดยกแรก

ยกต่อ ๆ มา สมรักษ์ คำสิงห์ ยังคงรักษาฟอร์มการชกไว้ได้อย่างดี และรักษาช่วงคะแนนที่นำไว้ได้อย่างต่อเนื่อง จนจบการแข่งขัน และสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

การคว้าเหรียญทองของ สมรักษ์ คำสิงห์ ในวันนั้น เป็นเหมือนการทำลายกำแพงที่กั้นความสามารถของนักกีฬาไทยในโอลิมปิกได้สำเร็จ และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักกีฬาไทยอีกหลาย ๆ คนสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งต่อ ๆ มา

ยิ่งไปกว่านั้น วันที่ 4 สิงหาคม 2539 ยังเป็นวันที่เพลงชาติไทย ได้ดังกระหึ่มบนเวทีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจชาวไทยมาจนถึงทุกวันนี้