จะกดดันทุกรูปแบบ!! ว่าที่ทูตสหรัฐ ประกาศจะให้ไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และลดการซื้อพลังงานจากพม่า เพื่อกดดันให้รัฐบาลทหารคืนประชาธิปไตย

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (Robert F. Godec) ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐว่า ตั้งใจจะช่วยไทยปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ และให้ไทยร่วมกดดันพม่าด้วย

วุฒิสมาชิกสหรัฐตั้งกระทู้ถามนายโกเดคถึง ม. 112 ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย

นายโกเดค กล่าวว่า สหรัฐเคารพราชวงศ์ไทยในฐานะสถาบันหนึ่ง และเข้าใจความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์ แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเคยเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและในทางส่วนตัวถึงความสำคัญที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องหวาดกลัวการถูกจับกุม และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

“ผมขอย้ำว่า คนที่ถูกจับกุมตัวจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเต็มที่ในระหว่างการดำเนินคดี”

ว่าที่ทูตสหรัฐยังระบุว่า จะช่วยเหลือประเทศไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงาน โดยบอกว่า ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก และเขายืนยันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้มีพัฒนาการ

ให้ปตท. เลิกซื้อก๊าซ พม่า กดดันคืนประชาธิปไตย

ว่าที่ทูตสหรัฐคนใหม่ยังระบุว่า จะกดดันให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากพม่า ตามรายงานของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนว่า ไทยนำเข้าพลังงานจากพม่าถึงร้อยละ 80

“เรากำลังหาทางให้ไทยเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลพม่า ทางเลือกทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะ รวมถึงเรื่องน้ำมันและก๊าซ รัฐบาลทหารพม่าได้ทำการอันเหี้ยมโหด และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหยุดยั้ง”

เขาย้ำว่าเรื่องพม่าจะเป็น ประเด็นสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะหารือกับทางการไทย

องค์กร  Human Rights Watch ระบุว่า ปตท. เป็นผู้จ่ายเงินให้กับรัฐบาลทหารพม่ารายใหญ่ที่สุด ด้วยการซื้อก๊าซธรรมชาติจากบ่อก๊าซยานาดาและซอว์ติกา คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ของปริมาณส่งออกทั้งหมดของพม่า รายได้จากก๊าซธรรมชาติเป็นรายได้ต่างประเทศสำคัญของพม่า มีมูลค่ามากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

สำหรับ นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เคยรับผิดชอบกิจการไทยและ เมียนมา ในช่วงประจำกรมเอเชียตะวันออก หลังจากนั้นไปเป็นทูตประจำตูนีเซียและเคนย่า เชี่ยวชาญปัญหาแอฟริกา และยังเคยทำงานเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิรัก เขาได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำกรุงเทพฯ คนใหม่ ขณะนี้รอการรับรองจากวุฒิสภา

ที่มา : เพจบูรพาไม่แพ้
https://www.facebook.com/531147253934691/posts/pfbid037aEPy7iFGBRsgUKFaRyY9JR8qsukhD2Vvi7bVec1gquy29H5mTF4uMtWd7VvzP49l/