'กลุ่มสหพัฒน์' เร่งหารือกรมการค้าภายใน ขอขึ้นราคา 'มาม่า-ผงซักฟอก' เหตุต้นทุนสูง

สถานการณ์ของแพง กำลังสร้างผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนอย่างหนัก เพราะสินค้าทยอยปรับขึ้นราคาไม่หยุด ล่าสุดทาง "กลุ่มสหพัฒน์" ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ออกมายอมรับกำลังเร่งเจรจากับกรมการค้าภายใน ขอขึ้นราคา "มาม่า-ผงซักฟอก" หวั่นสินค้าขาดตลาด และยอมรับว่าวิกฤตต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนักกว่า 26 ปีก่อน ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ยอมรับว่า ราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า ซึ่งบริษัทแบกรับภาระต้นทุนมาช่วงหนึ่งแล้ว เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจากมาม่า ส่วนสินค้าถัดไปคาดว่าจะเป็นผงซักฟอก ที่จะต้องมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเช่นเดียวกัน

นายบุณยสิทธิ์ ยอมรับว่าวิกฤตของแพงครั้งนี้รุนแรงกว่าเมื่อ 26 ปีที่แล้วที่เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะครั้งนี้เป็นผลกระทบในวงกว้าง เมื่อต้นทุนทุกอย่างขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา และเป็นห่วงว่าหากภาครัฐควบคุมการขึ้นราคาสินค้าเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสที่สินค้าจะขาดตลาด เพราะผู้ผลิตอาจลดกำลังการผลิตลงหรือชะลอการผลิต ทำให้เกิดการกักตุนสินค้าและท้ายที่สุดก็ขาดตลาด

ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี จากราคาสินค้าแพงนั้น จนทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. อาจจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บมจ. ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่เห็นด้วยที่จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้เป็นต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อาจจะกระทบกำลังซื้อผู้บริโภคได้