‘แอนนา’ เคลื่อนไหวแล้ว หลังถูกออกหมายจับ ปมเปิด ‘โชคดีลอตเตอรี่’ ขายหวยทิพย์ออนไลน์

ภายหลังจากที่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท ผู้บริหารเว็บไซต์กองสลากพลัส แจ้งความดำเนินคดีกับ นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือ ต๊ะ บอยสเก๊าท์ และ นายวรินทร วัตรสังข์ หรือแอนนา เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังมีส่วนร่วมในการทำทำแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘โชคดีลอตเตอรี่’ ขายหวยทิพย์ โดยไม่มีสลากใบจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ‘แอนนา’ ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว ภายหลังถูกออกหมายจับ โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า เขียนที่ cancun ประเทศ Mexico

แอนนารับทราบแล้วกับการออกหมายจับ กระบวนการตามกฏหมายใดๆ เราพร้อมปฏิบัติหากเรามีความผิดจริง หลายคนสอบถามเรื่องสลาก แอนนาได้มีการสอบถามทางทีมงานเรียบร้อยแล้ว และจะไม่นิ่งเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมจะให้ความร่วมมือทุกกรณีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง ถึงแอนนาจะเป็นสาวประเภทสอง แต่ใจเราส่วนนึงก็มีความเป็นผู้ชายพอ สิ่งใดผิดเรากล้ารับ สิ่งใดไม่ผิดเราต้องปกป้องตัวเอง ประเทศไทยเป็นการใช้ระบบกล่าวหา ถ้าผู้ต้องหาสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ก็คือจบ

หลายๆคนบอกว่าแอนนาหนีคดี แอนนามาเมืองนอก มาเที่ยวมาพัก ตั้งแต่ 14 เมษา และกลับไปเผาศพพ่อเลี้ยงมาแล้ว วันที่นอนฟังสรุปคดีของเพื่อน แอนนาใช้ยานอนหลับมากขึ้นเรื่อยๆ จึงปรึกษาจิตแพทย์ การใช้ยานอนหลับ ไม่ใช่ทางออก จึงชวนพี่จี้มาเที่ยวมาทำตามความฝันที่เราเคยคุยกัน และหมายจับก็เพิ่งออกมาเมื่อวาน แอนนาก็เพิ่งทราบพร้อมทุกคน แอนนาเดินทางออกมาตั้งแต่ยังไม่มีประเด็นหวยทิพย์ ตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ

พอเกิดปัญหาวิธีแก้ปัญหาคือเดินเข้าไปหาและแก้ไข การหนีไม่ใช่ทางออก แอนนาจะกลับไทยในต้นเดือนหน้าอย่างที่วางแผนไว้แน่นอนค่ะ

เรื่องรวยผิดปกติ ลองเทียบงานที่แอนนาทำดูนะคะ จัดรายการทีวี ขายของ ขายอาหารเสริม รับรีวิวสินค้า รับงานพิธีกรทอล์คสินค้าตามรายการต่างๆ รับทำการตลาด เส้นทางการเงินสามารถตรวจเช็คได้และแอนนายินดี ปัจจุบันก็ยังมีหนี้บ้าน หนี้รถ เรื่องหนี้สินปัญหาชีวิต คนไม่เคยรู้ คนจะรับรู้แค่ตอนเรามีแล้วตั้งคำถามว่าทำไมถึงมี ทำไมไม่ถามว่าทำงานเยอะจังทำไมไม่รวยสักที ถ้าเทียบกับ Influencer คนอื่นๆแอนนาถือว่ามีน้อยมาก แต่ที่อยู่นานอยู่ได้มากกว่า 10ปี เพราะเราตรงไปตรงมาจริงใจกับคนดูและลูกค้ามาตลอด

เหตุการณ์ในครั้งนี้เราจะได้เห็นความจริงใจของคน คนที่ยิ้มให้เราแต่ขยี้ข่าวเราทุกนาที ส่งต่อ นินทา โดยขาดข้อมูลที่แท้จริงด้วยซ้ำ กับคนที่มีแต่พลังบวกให้กำลังใจ ให้โอกาสเราได้พูด รับฟัง

นี่ไม่ใช่จดหมายลาตายแต่อยากชี้แจงในส่วนของตัวเอง ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่ไปกว่านาทีที่แอนนาคิดจะฆ่าตัวตายในอดีตอีกแล้ว เราผ่านเรื่องร้ายๆมามากพอที่จะแกร่งและพร้อมสู้กับโลกนี้

สำหรับคดีนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับผุ้ต้องหา จำนวน 3 ราย จับกุมแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 1 ราย ดังนี้

1.นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอยสเกาท์ อายุ 48 ปี ทำหน้าที่โฆษณาชักชวน โดยสามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักของตนเอง แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
2.น.ส.มินตรา หรือแนน ขุนสวัสดิ์ อายุ 28 ปี เป็นกรรมการบริหาร โดยสามารถจับกุมที่บ้านพักของตนเอง
3.นายวรินทร วัตรสังข์ หรือแอนนา ทีวีพูล อายุ 37 ปี เป็นกรรมการบริหารและทำหน้าที่โฆษณาชักชวน อยู่ระหว่างติดตามตัว ทราบว่าพักอาศัยอยู่ต่างประเทศ

ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และข้อหาร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการเข้าค้นทั้ง 14 แพลตฟอร์ม ที่มีพฤติกรรม จำหน่ายสลากเกินราคาและปิดบังบาร์โค้ด สัญลักษณ์ และสาระสำคัญของของสลากกินแบ่งรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่ามีการนำสลากมาเวียนขายซ้ำ , จำหน่ายสลากที่ไม่มีอยู่จริง และขายเกินจำนวน ในหลายแพลตฟอร์ม จึงได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มที่หลอกขายสลากที่ตนไม่มีอยู่จริง 
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามมูลฐาน ‘ฟอกเงิน’ อีกด้วย โดยจะมีการอายัดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบที่มาว่าเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากดังกล่าวหรือไม่
ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีทุกราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการปิดบังสาระสำคัญของสลากฯ เป็นเจตนาทุจริต ที่จะปกปิดการกระทำผิด หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะจำหน่ายสลากเกินราคา นำสลากมาเวียนขายซ้ำ หลอกขายสลากที่ไม่มีจริง หรือขายเกินจำนวน ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายให้กับประชาชนในวงกว้าง ขัดต่อศีลธรรมอันดี และ ความสงบเรียบร้อยของสังคม เจ้าหน้าที่จะได้เดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง ต่อไป


ที่มา  : https://www.facebook.com/photo?fbid=594589872027620&set=a.337639544389322