สุขสันต์ วันอีดิ้ลฟิตริ

ศูนย์ดาราศาสตร์ในเอมิเรตส์คาดการณ์ วันอีดิ้ลฟิตริ ประเทศส่วนใหญ่ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 โดยอ้างจาก โมฮัมมัด เชากัต โอเดฮ์ วิศวกรผู้อำนวยการศูนย์ดาราศาสตร์นานาชาติแห่งเอมิเรตส์ (UAE’s International Astronomy Centre) ซึ่งอธิบายว่า ในวันที่ 30 เมษายน 2565 หลังเวลามักริบจะไม่เห็นจันทร์เสี้ยว เนื่องจากดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า และดวงจันทร์จะตกก่อนดวงอาทิตย์ หากกำหนดดูเดือนในวันดังกล่าวก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นเดือน ดังนั้น จึงต้องถือศีลอดต่ออีก 1 วัน และวันอีดิ้ลฟิตริ จะตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม

ประเทศต่างๆ ที่เริ่มถือศีลอดในวันที่ 2 เมษายน 2565 จะสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในวันที่ 1 พฤษภาคม และออกอีดฟิตริ ในวันที่ 2 พฤษภาคม

ส่วนประเทศที่เริ่มเข้าเดือนรอมฎอนในวันที่ 3 เมษายน เช่น ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน อินเดีย โอมาน จอร์แดน และโมร็อกโก จะกำหนดดูจันทร์เสี้ยวในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งนับเป็นวันที่ 29 ของเดือนรอมฎอน (สำหรับพวกเขา) เพื่อกำหนดวันอีดิ้ลฟิตริ ต่อไป

เขายังกล่าวอีกว่า ประเทศเช่น ออสเตรเลีย และประเทศในภูมิภาคใกล้เคียง จะไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ในค่ำคืน ที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยในค่ำคืนดังกล่าวจะสามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ผ่านทางกล้องเทเลสโคป เฉพาะในพื้นที่แถบเอเซียกลาง เอเซียตะวันตก และส่วนมากของประเทศในยุโรป รวมทั้งแอฟริกาใต้ เท่านั้น

ประเทศส่วนมากที่ประกาศดูดวงจันทร์ในค่ำคืนที่ 1 พฤษภาคม 2565 จะประกาศวันอีดิ้ลฟิตริ ในวันที่ 2 พฤษภาคม ในขณะที่บางประเทศ เช่น อินเดีย บังคลาเทศ และปากีสถาน จะประกาศวันอีดิ้ลฟิตริ ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565

วันเฉลิมฉลองอีดิ้ลฟิตริ ตามมาหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งอาจจะมี 29 หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับการเห็นจันทร์เสี้ยวในแต่ละพื้นที่

สำหรับ วันอีฎิ้ลฟิตริ (บ้างสะกด : อีดิ้ลฟิตรี) เป็นวันแรกของการออกจากเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิม (วันที่ 1 ของเดือนเชาวาล) เป็นวันแห่งรางวัลและการตอบแทนสำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบประจำปีในเดือนรอมมฎอน ด้วยการบังคับ ตัวเองด้วยจิตศรัทธาที่มุ่งมั่น จากการกินดื่ม อยู่ในความสำรวมตนลดละกิเลสตัณหา และยืนฟังการอ่าน อัลกุรอานในการละหมาดตะรอเวียะห์เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มตลอดค่ำคืนของเดือนรอมฎอน พร้อมทั้งฝึกฝนด้านความโอบอ้อมอารีและความมีจิตเมตตาและกรุณาต่อผู้ที่ด้อยโอกาสและอ่อนแอกว่า ในช่วงเดือนรอมฎอนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เพื่อขัดเกลาตนเองทั้งกายใจ

ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาสำเร็จออกจากเบ้าหลอมแห่งการทดสอบ 'อิสลาม' จึงประกาศให้วันนี้เป็นวันอีด (วันแห่งเทศกาลการเฉลิมฉลอง) ที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกับสั่งให้มีการบริจาคทานแก่บรรดาผู้ที่ขัดสน ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "ซะกาตฟิฎเราะฮฺ" ควบคู่ไปกับการละหมาดอีด

ที่มา: www.english.alarabiya.net
https://news.muslimthaipost.com/news/36208