‘ซาอุดีอาระเบีย’ แข็งข้อ!! พร้อมเท ‘สหรัฐฯ’ แถมขู่ ‘ไบเดน’ จะร่วมจับมือกับ ‘จีน-รัสเซีย’ 

สำนักข่าว Wall Street Journal สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานความเคลื่อนไหวของมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทายาทลำดับที่ 1 แห่งราชวงศ์ซะอูด และเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียในปัจจุบันว่า เขาได้ขู่ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ว่าจะพาซาอุดีอาระเบียไปเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซียมากขึ้น เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ ที่เคยหมางเมิน มีใจออกห่างจากพันธมิตรเก่าแก่อย่างซาอุดีอาระเบีย

ความขัดแย้งของมหาอำนาจทั้งสอง เริ่มขึ้นตั้งแต่ โจ ไบเดน ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ โดยไบเดนได้วิพากษ์วิจารณ์ซาอุดีอาระเบียอย่างหนักมาโดยตลอด ตั้งแต่ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน, กล่าวโทษซาอุฯ ในเรื่องสงครามในเยเมน, ออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ชาวซาอุดีอาระเบียหลายสิบคนที่เชื่อว่าพัวพันกับคดีฆาตกรรม จามาล คาชอคกิ นักข่าวของ Washington Post เมื่อปี 2018

มิหนำซ้ำ โจ ไบเดน ยังไม่เคยขอนัดพบกับเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด เป็นการส่วนตัวเลยสักครั้ง และยังเคยให้สัมภาษณ์กล่าวถึงซาอุดีอาระเบียว่าเป็นพวกนอกคอก และพวกเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่ได้ทำลงไป

เรื่องนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศมหาอำนาจในตะวันออกกลางอยู่ในสถานะที่ตกต่ำที่สุด นับตั้งแต่ยุคอดีตประธานาธิบดีโอบามา และ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด 

สื่อสหรัฐฯ อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน, เจ้าชายโมฮัมเหม็ด และคณะที่ปรึกษา ได้หารือกันในพระราชวังริมทะเลเมื่อช่วงปลายปี 2021 ว่าจะตอบโต้การกระทำของโจ ไบเดนที่เหมือนดูถูกเหยียดหยามประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างไร

โดยในตอนแรกที่ประชุมเสนอว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ควรปล่อยตัวนักโทษการเมืองเพิ่มเติม สหรัฐฯ จะได้เพลาๆ การโจมตีซาอุดีอาระเบียได้บ้าง แต่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด กล่าวว่า แทนที่จะเอาแต่ตามใจสหรัฐฯ เราน่าจะขู่ไปเลยว่าเราจะไปเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน และรัสเซียจะดีกว่า 

แม้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน จะไม่ได้ออกมาแถลงผ่านสื่อชัดเจน แต่การกระทำบางครั้งก็ชัดเจนกว่าคำพูด โดยเจ้าชายโมฮัมเหม็ด เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ทางรัฐบาลซาอุฯ กำลังพิจารณาลดปริมาณการลงทุนจากสหรัฐฯ ไม่น้อยกว่า 8 แสนล้านเหรียญ แต่เปิดรับเงินลงทุนจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ 

และตั้งแต่เกิดข้อพิพาทยูเครน-รัสเซีย ซาอุดีอาระเบียเลือกที่จะไม่ยืนข้างสหรัฐฯ ด้วยการประณามและคว่ำบาตรรัสเซียตามชาติตะวันตก รวมถึงหลีกเลี่ยงที่จะรับโทรศัพท์สายตรงของโจ ไบเดน จากทำเนียบขาว อีกทั้งไม่ยอมเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันตามข้อเรียกร้องขอสหรัฐฯ เพื่อช่วยดึงราคาน้ำมันลง หลังจากที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกเดินเกมแบนการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย

ดังนั้น การเคลื่อนไหวต่อจากนี้ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอเมริกา จึงเป็นที่น่าสนใจมาก หากทั้งสองประเทศ ที่เคยเป็นคู่หูกันมาโดยตลอด จะเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือนั้น อาจจะส่งผลให้นโยบายจัดระเบียบโลกใหม่ของสหรัฐฯ ต้องเปลี่ยนไปก็เป็นได้


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: Business Insider / Forbes / CNBC