นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการการศึกษาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคา เปิดเผยถึงแนวทางแก้ปัญหาสลากเกินราคาว่า ในระยะสั้น เมื่อได้ทดลองการขายสลากฯผ่านแอปเป๋าตัง ในเดือนเมษายนนี้ สำนักงานสลากฯ ยังเตรียมเปิดขายผ่านแอปเป๋าตังในงวด 16 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ตัวแทนรายย่อย นำสลากมาฝากขายผ่านออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางหนึ่งในการจัดเก็บข้อมูลทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเข้าระบบได้ทั้งหมด   

จากนั้นในระยะปานกลาง 3-6 เดือน คณะอนุกรรมการฯ เตรียมพิจารณาการจัดสรรระบบโควตา จากมูลนิธิ สมาคม  800 องค์กร จากปัจจุบันมีสัดส่วน 31% ของสลากฯจัดพิมพ์ 100 ล้านฉบับต่องวด โดยจะเข้าไปตรวจสอบดูว่ามูลนิธิ องค์กร สมาคม มีการซื้อขายจริงอย่างไร ผู้ค้าสลากเป็นกรรมการ ลอย สมาชิกลอย มีตัวตนจริงหรือไม่ ขายสลากจริงหรือไม่ เพื่อนำสลากฯที่มีปัญหามาเกลี่ยโควต้าไปให้กับรายย่อยผู้ค้าตัวจริง และผู้ต้องการขายสลากฯ ต่อไป

ส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นตัวแทนรายย่อยซื้อ-จองล่วงหน้า สัดส่วน 69% ได้มอบหมายให้หลายหน่วยงานภาครัฐคัดกรองอยู่ในปัจจุบันให้ได้ 2 แสนราย โดยเป็นผู้มีอาชีพขายสลากฯจริง ซึ่งจะเตรียมใช้รูปแบบจัดชั้น สร้างพันธมิตรตัวแทนขายสลากฯดีเด่น ทำตามเงื่อนไขสำนักงานสลากฯ จะได้รับโควต้าเพิ่มจาก 5 เล่ม เพิ่มเป็น 10-15 เล่ม แต่หากใครทำผิด จะมีโทษหนัก เบา ในการพิจารณาความผิด และต้องเดินหน้าศึกษาเพิ่มบทลงโทษในการขายสลากให้เด็กอายุไม่เกิน 18 ปีการขายในบริเวณสถาบันศึกษา ศาสนสถาน หรือความผิดด้านต่างๆ ด้วย

“คณะอนุกรรมการ กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานเพื่อให้ได้ผลการศึกษา และแนวทางตลอดจนมาตรการ ไม่เกิน 6 เดือน  ต้องมีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้สลากถึงมือผู้ขายจริง และผู้ซื้อสามารถซื้อได้ในราคา 80 บาทอย่างเป็นรูปธรรม”