เลขาฯ UN เตือน ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย เป็นไปได้ ที่จะลงเอยด้วย ‘สงครามนิวเคลียร์’

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.) ว่าสงครามที่กำลังลุกลามบานปลายในยูเครน "ไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือตั้งใจ" จะคุกคามมนุษยชาติทั้งมวล และส่งเสียงแห่งความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจลงเอยด้วยหายนะนิวเคลียร์

"แนวโน้มความขัดแย้งนิวเคลียร์ครั้งหนึ่งไม่เคยอยู่ในความคิด ตอนนี้มันกลับมาอยู่ในขอบเขตแห่งความเป็นไปได้" กูเตอร์เรสกล่าว

ความเห็นของกูเตอร์เรสเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ เป็นการพาดพิงถึงความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งให้กองกำลังป้องปรามของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงอาวุธทางยุทธศาสตร์ต่างๆ ทั้งอาวุธนิวเคลียร์และทั่วไปเตรียมความพร้อมเป็นพิเศษ เมื่อเดือนที่แล้ว สถานการณ์ที่เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติเรียกว่า "หนาวไปถึงกระดูก"

ทางฝ่ายตะวันตก ผู้สันทัดกรณีและนักการเมืองบางรายทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ กำลังกดดันให้นาโต้ประกาศ "เขตห้ามบิน" เหนือยูเครน ความเคลื่อนไหวที่จะได้เห็นพันธมิตรแห่งนี้ประกาศสอยร่วงอากาศยานของรัสเซียหากบินเข้ามาในน่านฟ้ายูเครน ดึงบรรดามหาอำนาจนิวเคลียร์โลกเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างกันอย่างเปิดเผย

จนถึงตอนนี้บรรดาพวกผู้นำนาโต้ยังคงขัดขืนต่อเสียงเรียกร้องดังกล่าว ส่วนวอชิงตันเน้นย้ำว่าพวกเขาจะไม่สู้รบทางทหารกับรัสเซีย จนกว่าชาติสมาชิกนาโต้จะถูกโจมตี

นอกเหนือจากเค้าลางแห่งความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ กูเตอร์เรสยังเตือนด้วยว่า "สงครามนี้จะไม่มีผู้ชนะ มีเพียงผู้แพ้" คนยากจนของโลกจะได้รับผลกระทบโดยเฉพาะจากราคาอาหารที่พุ่งสูง พร้อมเน้นว่าแค่เฉพาะยูเครนเพียงชาติเดียวได้ป้อนอุปทานข้าวสาลีให้โครงการอาหารโลกมากกว่าครึ่ง ขณะเดียวกัน เมื่อรวมทั้งรัสเซียและยูเครนแล้ว ทั้งสองชาติป้อนน้ำมันดอกทานตะวันแก่โลก คิดเป็นสัดส่วนเกินครึ่งของอุปทานน้ำมันดอกทานตะวันทั้งหมดทั่วโลก และป้อนข้าวสาลีสู่ตลาดโลก คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3

"สงครามนี้จะส่งผลกระทบเลยเถิดไปไกลนอกยูเครน เป็นมีดดาบที่แขวนไว้เหนือเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา" เขากล่าว

กูเตอร์เรสบอกว่า สหประชาชาติจะจัดสรรงบประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อมอบอาหาร ความช่วยเหลือและเงินสดแก่พลเมืองชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และเผยว่าเขาได้ติดต่อทางอ้อมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นการส่วนตัว เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้ง นอกจากนี้ ยังเผยด้วยว่าเขาได้ทาบทามไปยังประเทศที่ 3 หลายชาติ ในนั้นรวมถึงจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับการเป็นคนกลางของการเจรจา

คณะผู้แทนจากรัสเซียและยูเครนพบปะกันทางไกลในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ในการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ซึ่งจากนั้นก็หยุดชะงักลงและกำหนดกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในวันอังคาร (15 มี.ค.) ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี บอกในวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) แสดงความหวังว่าการเจรจาเหล่านี้จะนำมาซึ่งการพบปะพูดคุยกันด้วยตนเองระหว่างเขากับปูติน

รัสเซียเปิดฉากรุกรานทางทหารในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดย ปูติน เน้นย้ำว่าเจตนาของรัสเซียคือทำลายนาซีและปลดอาวุธชาติเพื่อนบ้าน และรับประกันว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้

ปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมอสโกกล่าวหาว่าเคียฟ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนที่พูดภาษารัสเซียใน 2 สาธารณรัฐแบ่งแยกดินแดน ในภูมิภาคดอนบาสส์ มานานกว่า 7 ปี ทั้งนี้ ปูติน ให้การรับรอง 2 สาธารณรัฐดังกล่าว ไม่กี่วันก่อนหน้าเปิดฉากรุกรานยูเครน


(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)
https://mgronline.com/around/detail/9650000025263