ชื่นมื่น! 'เอกชนไทย - ซาอุฯ' เจรจากรอบความร่วมมือระบบอิเล็กทรอนิกส์ จัดหาแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ 

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานการประชุมรับฟังการนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการจ้างงานและการออกวีซ่าของซาอุดีอาระเบีย และประชุมหารือระหว่างสำนักงาน/บริษัทจัดหางานไทยและซาอุดีอาระเบีย ณ ห้องประชุมเทียนอัชกุล ชั้น 10 กรมการจัดหางาน โดยมี นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมด้วย

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้เป็นประธานการประชุมรับฟังการนำเสนอระบบอิเล็กทรอนิกส์ของซาอุดีอาระเบีย และประชุมหารือระหว่างสำนักงาน/บริษัทจัดหางานไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และร่วมหารือเกี่ยวกับกระบวนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในชาอุดีอาระเบียให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันให้แรงงานไทยไปทำงานยังต่างประเทศอย่างมีศักดิ์ศรี ได้รับการคุ้มครองตามหลักสากลและมีคุณภาพชีวิตที่ดี 

โดยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมคนหางานก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยการให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้คนงานไทยที่เดินทางไปทำงานยังต่างประเทศได้ยกระดับเป็น Smart Labour ตลอดจนส่งเสริมให้คนงานได้รับการคุ้มครองการทำงานระหว่างที่ทำงานในต่างประเทศตามหลักสากลได้รับค่าตอบแทนในการทำงานที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้มีรายได้กลับเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ 

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของนายจ้างเนื่องจากเป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือ มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะไปทำงานไปทำงานต่างประเทศในสาขาอาชีพต่าง ๆ ได้แก่ สาขาช่างฝีมือในภาคก่อสร้างขนาดใหญ่ งานช่าง งานบริการ และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นโอกาสของแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ (ณ วันที่ 11 มี.ค.65) พบว่า ขณะนี้มีคนหางานแจ้งความประสงค์ไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ E–service เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th แล้วจำนวน 1,011 คน แยกเป็น ชาย 670 คน หญิง 341 คน โดยคนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศต้องลงทะเบียนกับศูนย์ทะเบียนคนหางาน ไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลคนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยคนหางานต้องแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปทำงาน ตำแหน่งงานที่ต้องการทำ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ เป็นต้น

โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ (e-Service) ทางเว็บไซต์ http://toea.doe.go.th 

"ความสำเร็จในการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ภาคเอกชนทั้ง 2 ฝ่ายในวันนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกันได้เป็นอย่างดี โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานในการเคารพและยึดมั่นในพันธกรณีต่าง ๆ ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ และความร่วมมือทวิภาคีด้านการจ้างแรงงานที่มีอยู่ เพื่อประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านแรงงานที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายร่วมกันต่อไป" นายไพโรจน์ กล่าวในท้ายสุด