“ประวิตร” ถก กนช. เร่ง ขับเคลื่อนการจัดการน้ำ โครงการ ปก.น้ำเค็มรุก-ผลิตน้ำจืดจากทะเล ไฟเขียว 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนปี65
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.)ครั้งที่1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์สื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2564/2565 ประกอบด้วย 13 มาตรการ เพื่อรองรับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)ได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูฝนปี65 และกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งปี65/66
นอกจากนั้นเห็นชอบโครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะที่ 2 ที่สามารถบำบัดน้ำเสียได้มากถึง 42,000 ลบ.ม.ต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่บริการ 15.39 ตาราง ก.ม.ในเขตมีนบุรี,คลองสามวา ,สะพานสูง และเขตคันนายาว โดยให้กทม.จัดทำแผนการใช้ประโยชน์จากน้ำหลังการบำบัดแล้วให้ชัดเจน และเห็นชอบ กรอบการศึกษานวัตกรรมเชิงระบบ โครงสร้าง กลไก ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ทับซ้อน และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำพ.ศ.2561 โดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้น้ำจากทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมเต็มที่
ทั้งนี้ที่ประชุม รับทราบความคืบหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำที่สำคัญ เช่น โครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)ที่ป่านการศึกษาและสทนช.จะดำเนินการขับเคลื่อนเตรียมเสนอกนช.ต่อไป และรับทราบผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้งปี 64/65 จำนวน9 มาตรการ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงปี65 และการศึกษาการก่อสร้างประตูระบายน้ำป้องกันการรุกตัวของน้ำเค็มในอ่าวไทย เข้ามาในแม่น้ำสายหลัก โดยจะเริ่มดำเนินงานปี2566
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้สทนช.และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบูรณาการขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้สามารถแก้ปัญหาน้ำ เพื่อลดผลกระทบประชาชนจากภาวะน้ำท่วมและภัยแล้งให้ได้ผลเป็นรูปธรรม และให้เร่งรัดการดำเนินงานที่ยังไม่แล้วเสร็จให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดตามกรอบเวลา รวมถึงสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ให้ทุกภาคส่วน และประชาชน มีส่วนร่วมกับภาครัฐ ควบคู่กันไปเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดผลสัมฤทธิ์ยั่งยืน และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล