'ท่านใหม่' เตือนใจ ถ้าไม่อยากให้บ้านพังต้องกำจัดสนิม ดั่งบ้านเมืองที่ต้องตรวจสอบ-ปราบทุจริตให้สิ้นซาก

13 มี.ค. 65 - ม.จ. จุลเจิม ยุคล หรือ "ท่านใหม่" โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ขอบคุณเพื่อนผมท่านหนึ่ง ได้ตอบปัญหาที่คาใจ ที่ผมอยากจะพูดให้ผมแล้ว ว่า "สวัสดี วันอาทิตย์ ครับ สนิมเกิดจากเนื้อในเหล็ก ถ้าไม่อยากให้บ้านพัง ก็ต้องกำจัดเสาเหล็กที่เป็นสนิมออกไป"

ม.จ.จุลเจิม โพสต์อีกว่า ขอบคุณเพื่อนผมท่านหนึ่ง ได้ตอบปัญหาที่คาใจ ที่ผมอยากจะพูดให้ผมแล้ว ว่า สนิมเกิดจากเนื้อใน

อันสนิมเหล็กนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมสร้างความเสียหายตามกาลเวลา แต่ ณ วันที่มันยังเป็นสนิมที่ผิวเหล็กก็ยังมิส่งผลอันเลวร้ายใดต่อความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างบ้านของผู้อยู่อาศัย เจ้าของบ้านจึงชะล่าใจปล่อยให้สนิมกัดกินลึกขึ้น ลึกขึ้น สิ่งนี้คือ ธรรมชาติของเหล็ก เจ้าของบ้านจึงต้องมีกระบวนการจัดการกับสนิมอย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบกับบ้านเมืองที่มีการตรวจสอบตรวจตราอย่างละเอียดรอบคอบ คอยกำจัดสนิมเหล่านั้นออกจากผิวเหล็ก และทาสีกันความชื้นกับอากาศที่จะป้องกันมิให้การเกิดสนิมกัดกินลึกเข้าไปในเนื้อเหล็ก เปรียบเสมือน กระบวนการป้องกันปราบปรามการทุจริตต่างๆ ที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับกระบวนการยุติธรรมที่มีคุณภาพ และมีคุณธรรม

โครงสร้างบ้านนั้นจะเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดาย ต้องมีเสารับน้ำหนักแทนเสาทีผุพังเพราะสนิม หรือปลวกกัดกิน หากต้องเปลี่ยนเสาใหม่ ค่าใช้จ่ายหรือสิ่งที่จะต้องเสียไปเพื่อให้ได้ความมั่นคงแข็งแรงกลับคืนมานั้น จะมีราคาแพงกว่าการตรวจสอบบำรุงรักษาเสมอ และความผุกร่อนนั้น หากเกิด ขึ้นที่ระบบฐานรากยิ่งอันตราย ซึ่งหมายถึงต้องรื้อบ้านสร้างกันใหม่ (จากฐานรากขึ้นไป) จึงมีคติว่า “ฐานราก และเสาบ้านที่มั่นคง ย่อมนำมาซึ่งการต่อยอดที่มั่นคงของบ้าน” นอกจากจะแข็งแรงแล้วยังไม่เพียงพอ บ้านจะต้องสวยงาม มั่นคงยั่งยืนอีกด้วย

ความมั่นคงของบ้าน ศึกษาได้จากแนวพระราชดำริในล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกำเนิดสำนักงานตรวจสอบพระคลังจวบจนกลายมาเป็นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในปัจจุบัน เป็นที่น่าเสียดายที่คนยุคนี้ไม่เห็นคุณค่าของที่ บูรพกษัตริย์ของเราได้ทรงพระราชทานไว้เป็นเครื่องมือธำรงความยั่งยืนของสยามประเทศ หากประเทศชาติเดินอยู่บนทางที่มืดมนฉ้อฉล ก็ไม่ต่างอะไรกับเราหลับตาเดินด้วยความหวาดระแวงกันเอง มองไม่เห็นสนิม มองไม่เห็นปลวกในความมืด เราก็รอวันที่บ้านจะล้มลง หากตระหนักเช่นนี้ก็ไม่มีผู้ใดที่จะสุขใจอยู่บนความเสี่ยงนี้ได้ครับ รอวันสนิม หรือปลวกกัดกินจนเสา โค่นล้ม บ้านพังทลายลง แล้วก็ปิดฉากไปอีกหนึ่งหน้าของประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรที่เกิดขึ้นมา ณ ที่ตรงนี้ ดินแดนขวานทองคำ…….เพราะอยุธยาเองก็ล่มสลายด้วยเหตุเดียวกันนี้ครับ