“ผบ.ทร.” ตรวจฝึก ทร. เค้นศักยภาพกำลังรบ รับสภาพ "ขาดงบ อาวุธเก่า ส่งมอบช้า ยกเลิกโครงการ" ท่ามกลางสงครามกรุ่น  ยัน ทหาร คือปราการสุดท้ายป้องปธิปไตย

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรีพล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565บนเรือหลวงอ่างทอง โดยมี พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองอำนวยการฝึกเข้าร่วม

โดย พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้ชมการสาธิตการปฏิบัติการทางทหารเป็นการปฏิบัติการของกองกำลังทางเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล ( หมวดเรือปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก) ท่านควบคุมทะเลก่อนการยกพล ( การยิงตอร์ปิโดMK46 จากเรือด้วยลูกตอปิโดฝึก REXTPRP) การปฏิบัติการพิเศษการแทรกซึมเข้าสู่ที่หมายการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การปฏิบัติการของ สอ.รฝ.ในการโจมตีเรือผิวน้ำ

พร้อมให้โอวาทแก่กำลังพลตอนหนึ่งว่ากำลังรบของกองทัพเรือเป็นกำลังรบที่มีครบ 4 มิติ ทั้ง ผิวน้ำ ทางบก ทางอากาศ และใต้น้ำด้วยความหลากหลายทางกำลังรบนี้ กำลังพลทุกนายของกองทัพเรือจึงต้องมีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญมากกว่าปกติ และที่มากกว่านั้นก็คือต้องมีการประสานสอดคล้องที่จะทำให้กำลังรบทุกมิติของเราประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ประกอบกำลังเป็นกำลังทางเรือที่พร้อมจะปกป้องอธิปไตยของชาติจากภัยคุกคามในทุกมิติและทุกรูปแบบ

ในการนี้กองทัพเรือ จึงจัดให้มีการฝึกประจำปีขึ้นเพื่อให้กำลังพลจากหน่วยต่างๆได้มีโอกาสร่วมกัน ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสาขาปฏิบัติการต่างๆ และได้มีโอกาสทดสอบขีดความสามารถตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านองค์บุคคลและองค์วัตถุ รวมถึงองค์ยุทธวิธี

สำหรับการฝึกของกองทัพเรือครั้งนี้เป็นที่ทราบดีว่าอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมากมายทั้งงบประมาณ ยุทโธปกรณ์บางอย่าง อาจมีสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่เพียงพอ และที่สำคัญช่วงเวลานี้คือการระบาดของ โควิด-19 อย่างไรก็ตามข้อจำกัดเหล่านี้จะเห็นได้ว่าเป็นข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นได้ในยามสงครามจริงๆหมายถึงกองทัพเรือจะต้องบรรลุภารกิจแม้ยามประเทศชาติจะมีข้อจำกัดใดๆก็ตามเราจำเป็นต้องฝึก เป็นหลักประกันของความมั่นคงและการรักษา ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเพื่อแสดงถึงศักยภาพของกำลังพลที่มีความพร้อม เพื่อ ป้องปรามให้ฝ่ายที่เป็นภัยคุกคามต่อชาติเรามีความยับยั้งชั่งใจเหล่านี้คือคำตอบในภาพรวมที่ว่า เราฝึกเพื่อชาติและประชาชนที่จะต้องได้รับประโยชน์จากการฝึกในครั้งนี้

ในการฝึกครั้งนี้ยังมีการฝึกด้านช่วยเหลือประชาชนที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยรวมถึงการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัยตามแนวคิดการใช้กำลังแบบ from the sea และการค้นหาช่วยชีวิตในพื้นที่การรบทางทะเลทำ combat Sea SAR  ซึ่งการฝึกในลักษณะนี้จะทำให้กองทัพเรือมีความพร้อมที่จะเป็นหน่วยสำคัญในการสนับสนุน และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามที่ประเทศต้องเผชิญภัยพิบัติทางทะเลที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

ตนทราบว่าในปัจจุบันกำลังพลบางส่วนได้เตรียมการฝึก และปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ต่างๆตามหน่วยของกองทัพเรือขอถือโอกาสฝากไปถึงเพื่อนทหารทุกคน ให้ใช้การฝึกครั้งนี้เพิ่มพูนความรู้ และทักษะในการปฏิบัติการรวมถึงเค้นศักยภาพของตนเองออกมาให้เต็มที่ และขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น เค้นประสิทธิภาพหน่วยตนเองออกมาให้ได้มากที่สุด เหล็กในคนสำคัญกว่าเหล็กในเรือ  เราต้องใช้ขีดความสามารถเฉพาะตัวของเรามาทดแทนช่วยกันทำให้ยุทโธปกรณ์ที่เรามีที่อาจจะเก่าและล้าสมัยไปบางส่วน ให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมที่จะรับทุกสถานการณ์ในอนาคตที่มีความไม่แน่นอนสูง

"จากสถานการณ์โลกปัจจุบันโดยเฉพาะความขัดแย้งในยุโรปและภาคพื้นแปซิฟิกเห็นได้ชัดว่าสงครามมีโอกาสจะเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกที สงครามเมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ สงครามซึ่งคนอาจจับสัญญาณไม่ได้ แต่ทหารเราจับสัญญาณได้ เรารู้ดีว่าสถานการณ์โลก ไม่มีอะไรแน่นอน ถึงแม้เรามีความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศก็จริง แต่เมื่อมีปัจจัยภายนอกเข้ามามีอิทธิพล มิตรก็เป็นศัตรูได้" พล.ร.อ.สมประสงค์ กล่าว

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวอีกว่า ทหารเราจึงพร้อมยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายในการปกป้องอธิปไตยและเสรีภาพของชาติตลอดเวลาดังนั้น เราถึงต้องเตรียมการทั้งในปัจจุบันและในอนาคตโดยเฉพาะการจัดหายุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอไว้ล่วงหน้า ประวัติศาสตร์เตือนมาว่าเมื่อไหร่ที่เราอ่อนแอเราจะถูกเอาเปรียบเสมอยุทโธปกรณ์ใช้เวลาในการสร้างนานอาจจะ 3 ปีหรือ 5 ปีนอกจากนี้ตามที่พวกเราทราบกันบางครั้งการจัดหายุทโธปกรณ์ก็มีปัญหาต่างๆทำให้ถูกยกเลิกหรือไม่ได้รับตามเวลาที่กำหนด ในทุกระดับชั้น ซึ่งเราก็ต้องแก้ปัญหากันไปซึ่งเราก็ต้องแก้ปัญหากันไปทำให้ดีที่สุดอย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจว่าในยุคที่ตนเป็นผู้บัญชาการทหารเรือผมจะคิดถึงประโยชน์สูงสุดกองทัพเรือมากกว่าส่วนอื่น