‘อินเดีย’ ขอใช้วัคซีน ‘ผลิต-พัฒนา’ ในประเทศ ประหยัด จัดเก็บง่าย ไม่ตกเป็นทาสนายทุนต่างชาติ
รัฐบาลกลางอินเดียตกลงใจที่จะไม่ซื้อวัคซีนเจ้าดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Pfizer และ Moderna เพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า วัคซีนที่พัฒนาเองในประเทศก็เพียงพอที่จะให้ฉีดให้กับประชาชนในประเทศแล้ว แถมยังมีราคาถูกกว่า สามารถจัดเก็บ และขนส่งด้วยตู้แช่ทั่วไป ในขณะที่วัคซีน mRNA ของสหรัฐฯ ต้องเก็บในอุณหภูมิระดับติดลบ ซึ่งในอินเดียยังมีความพร้อมตรงนี้ไม่มากพอ
สำหรับวัคซีนสัญชาติอินเดีย ที่ผลิตได้เองในประเทศตอนนี้มีอยู่ 2 ตัวหลักๆ คือ Covishield อีกชื่อว่าวัคซีน AstraZeneca ผลิตโดยบริษัท Serum Institute of India และ Covaxin วัคซีนสัญชาติอินเดียแท้ๆ ที่พัฒนาโดย Bharat Biotech
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์อินเดียเพิ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน DNA ตัวแรกของโลก ที่ชื่อว่า Zydus Cadila ซึ่งเป็นวัคซีนล้ำสมัย ไม่ต้องใช้เข็มฉีด แต่สามารถผลักดันวัคซีนเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง
อินเดีย จัดเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลก และเคยได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นผู้กู้วิกฤติด้วยวัคซีน Covishield ที่จะสมทบเข้าโครงการ Covax ขององค์การอนามัยโลก แต่อินเดียมาเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของ Covid-19 ในประเทศเสียก่อน รัฐบาลอินเดียจึงออกกฎหมายระงับการส่งออกวัคซีน Covid-19 ชั่วคราว
แต่ตอนนี้อินเดียสามารถควบคุมการแพร่ระบาดรุนแรงมาอยู่ในระดับที่รับมือได้แล้ว และได้ทยอยฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 800 ล้านโดสทั่วประเทศ ขณะที่กำลังผลิตวัคซีนเริ่มกลับมาเข้าที่ จนคาดว่าอินเดียจะสามารถกลับมาส่งออกวัคซีนได้ภายในเดือนตุลาคม 2021 นี้
จากเหตุผลที่ว่ามา ทำให้อินเดียไม่จำเป็นต้องซื้อวัคซีนของผู้ผลิตรายใหญ่จากสหรัฐฯ และมองว่าการใช้ของในประเทศก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการแล้ว
อย่างไรก็ตาม สื่ออินเดีย ได้นำเสนออีกเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลอินเดียเลือกจะไม่ซื้อวัคซีนเจ้าดังของสหรัฐฯ โดยมีเหตุผลบางอย่างในมุมของสัญญาที่ไม่อาจตกลงกันได้ เช่น…
ในสัญญาของการซื้อวัคซีนจากสหรัฐฯ ต้องใช้ ‘สินทรัพย์กองทุนของประเทศ’ เป็นตัวค้ำประกันการซื้อขาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลอินเดียไม่ยอมรับ
นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิต Pfizer และ Moderna เรียกร้องให้รัฐบาลกลางอินเดียออกกฎหมายคุ้มครองบริษัท หากพบผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีน ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองแบบที่ออกในสหรัฐฯ และยุโรป
แต่รัฐบาลอินเดียให้ไม่ได้ เพราะแม้แต่บริษัทวัคซีนของอินเดียเอง ก็ยังไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายเช่นนี้เลย
อย่างไรก็ตาม 2 วัคซีนเทพ ก็ยังไม่ย่อท้อ โดยตัวแทน Pfizer ในอินเดีย ยังคงพยายามเจรจาเพื่อนำเข้าวัคซีนในตลาดอินเดียต่อไป ส่วน Moderna ก็พยายามใช้กลยุทธ์เจาะตลาดอินเดีย ด้วยการดึง Cipra บริษัทยารายใหญ่ของอินเดียเข้ามาเป็นหุ้นส่วนพันธมิตร
สรุปแล้ว หากมองปัจจัยโดยรอบที่กล่าวมา โดยเฉพาะเงื่อนไขผูกมัดของบริษัทยายักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ก็คงไม่มีอะไรที่ อินเดีย จะต้องคิดให้ซับซ้อนอีกแล้ว
เพราะในเมื่อ ผลิตเอง ใช้เอง พัฒนาจากบริษัทยาในประเทศเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร อิสระ และ มั่นคงกว่าเป็นไหนๆ
เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: Reuters / India Today / CNN / BBC