สืบสวน ตม.1 จับหนุ่มแดนโสม Overstay ‘หนีคดีแฝงตัวหลอกสาวไทย กว่า 20 ราย’ มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิงสาวผู้เสียหายชาวไทย ว่าได้ถูกชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง หลอกลวงเอาทรัพย์สินแล้วหลบหนีหายไป โดยคาดว่าน่าจะได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเอาทรัพย์สินในลักษณะเช่นเดียวกัน กว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายและสืบสวนจนทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือนายคิม อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหายโดยเฉพาะหญิงชาวไทย ผ่านทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ โดยจะทำการตีสนิทจนเหยื่อตายใจและหลงเชื่อ และจะให้เหยื่อโอนเงินให้โดยผ่านบัญชีคนไทย ซึ่งทำกับเหยื่อซึ่งเป็นหญิงชาวไทยจำนวนกว่า 20 ราย นอกจากนี้

 

จากข้อมูลทางการสืบสวนทราบว่านายคิม ยังมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยหลอกลวงหญิงเกาหลีใต้หลายราย ก่อนหนีมากบดานในไทย ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายคิมได้มาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในเขตบางซื่อ กทม. จึงได้วางกำลังเฝ้าติดตาม รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดมิเนียมดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบตัวนายคิม จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวพบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดไปกว่า 3 ปีแล้ว จึงได้จับกุมส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. และได้ประสานผู้เสียหายทั้งหมด เข้าให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ถูกจับรายนี้ต่อไป

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ www.immigration.go.th