ภายใต้แผนปฏิบัติการ สยบไพรี 64/18 “ปิดฉากนักค้าภาคเหนือตอนล่าง” มุ่งเน้นการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่ 3 โดยผ่านระบบคมนาคมโลจิสติกส์ - บริษัทขนส่งพัสดุทั้งในและต่างประเทศ

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว เพื่อร่วมกันทุกฝ่ายในการปราบปราม สืบสวน จับกุม แก้ไขปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์ชาติ

วันที่ 15 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.(1),พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.(4),พล.ต.ต.พยูห์ ธนศรีสืบวงศ์ รอง ผบช.ภ.6,พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส.,พล.ต.ต.รพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์, นายสราวุธ ภักดี ผอ.ป.ป.ส.ภาค 6, นายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอพยุหะคีรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ณ ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้แผนปฏิบัติการ สยบไพรี 64/18 “ปิดฉากนักค้าภาคเหนือตอนล่าง” มุ่งเน้นการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่ 3 โดยผ่านระบบคมนาคมโลจิสติกส์และบริษัทขนส่งพัสดุทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนทำลายเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบนลักลอบลำเลียงมาพักคอยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเพื่อกระจายเข้าไปในพื้นที่ตอนในของประเทศ

โดยเข้าปฏิบัติการ 125 จุด ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 78 ราย และตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ รายละเอียดดังนี้ เงินสดจำนวน 62,000 บาท ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท  รถยนต์ 11 คัน มูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท รถแทร็คเตอร์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ 11 คัน มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง มูลค่าประมาณ 54,900 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร 8 รายการ มูลค่าประมาณ 90,000 บาท รวมตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท โดยเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด และส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตามพ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป